xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งความ 5 เดือนคดีไม่คืบ เจ้าของพูลวิลล่าย่านอ่าวนาง ร้องผู้ว่าฯ ถูกคนร้ายลักทรัพย์เสียหาย 2 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระบี่ - แจ้งความ 5 เดือนคดีไม่คืบ เจ้าของพูลวิลล่าย่าน ต.อ่าวนาง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง จ.กระบี่ ควงทนายร้องขอความเป็นธรรม ผวจ. หลังคนร้ายบุกยกเค้ารื้อโครงสร้างอาคารวิลล่าขาย เสียหายร่วม 2 ล้าน


วันนี้ (4 ก.ค.) นางขวัญสุราษฎร์ เบเยอร์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ที่ 13 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของพูลวิลล่า แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยนายพรศักดิ์ แซ่พั่ง ทนายความ ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หลังมีคนร้ายเข้าไปลักขโมยอุปกรณ์ก่อสร้าง บ้านพักพูลวิลล่า เสียหายมูลค่าร่วม 2 ล้านบาท แจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง นานกว่า 5 เดือน แต่คดีไม่คืบ


วันนี้ (4 ก.ค.) นางขวัญสุราษฎร์ เบเยอร์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ที่ 13 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของพูลวิลล่า แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยนายพรศักดิ์ แซ่พั่ง ทนายความ ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หลังมีคนร้ายเข้าไปลักขโมยอุปกรณ์ก่อสร้าง บ้านพักพูลวิลล่า เสียหายมูลค่าร่วม 2 ล้านบาท แจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง นานกว่า 5 เดือน แต่คดีไม่คืบ


วันนี้ (4 ก.ค.) นางขวัญสุราษฎร์ เบเยอร์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ที่ 13 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของพูลวิลล่า แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยนายพรศักดิ์ แซ่พั่ง ทนายความ ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หลังมีคนร้ายเข้าไปลักขโมยอุปกรณ์ก่อสร้าง บ้านพักพูลวิลล่า เสียหายมูลค่าร่วม 2 ล้านบาท แจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง นานกว่า 5 เดือน แต่คดีไม่คืบ


นางขวัญสุราษฎร์ กล่าวว่า ตนและครอบครัว ได้มาลงทุนสร้างที่พักพูลวิลล่า ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง โดยเริ่มสร้างไปได้ จำนวน 5 หลัง เงินลงทุนกว่า 10 ล้าน เมื่อเกิดการระบาดไวรัสโควิด-19 ได้พักโครงการไว้ชั่วคราว และ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.66 ตนและครอบครัวได้เดินทางเข้ามาที่ไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ พบว่าตู้คอนเทนเนอร์สีแดงขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตู้ โครงก่อสร้างหลังคาเหล็กของบ้านพักพูลวิลล่า และกระเบื้องหลังคาบางส่วน พร้อมทั้งไม้ไผ่สำหรับตกแต่งอาคารได้หายไปจากไซต์งานก่อสร้าง คิดเป็นเงินร่วม 2 ล้านบาท


ซึ่งจากการสอบถามบุคคลคลใกล้เคียง ทราบว่า เมื่อประมาณเดือน ม.ค.66 ได้มีรถเครนพร้อมคนงานเข้ามาในไซต์งาน และได้ถอดโครงก่อสร้างหลังคาเหล็กของอาคาร และนำตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ออกไปจากพื้นที่ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง โดยมี ร.ต.ท.รัฐพล ธงรอด รอง สว.(สอบสวน) ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว


จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ทรัพย์สินที่หายไป ทั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้าง และตู้คอนเทนเนอร์ได้ถูกร้านรับซื้อของเก่าชื่อดัง 2 ร้าน ซึ่งเป็นร้านพี่น้องกันในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ รับซื้อไป ทั้งที่ทราบตัวบุคคลและรถยนต์ที่ใช้ในการขนย้ายทรัพย์สินของตนไปยังร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าวแล้ว แต่ในส่วนของคดียังไม่มีความชัดเจนและความคืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งที่ตนได้ติดตามคดีมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม 5 เดือนเศษ


จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ทรัพย์สินที่หายไป ทั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้าง และตู้คอนเทนเนอร์ได้ถูกร้านรับซื้อของเก่าชื่อดัง 2 ร้าน ซึ่งเป็นร้านพี่น้องกันในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ รับซื้อไป ทั้งที่ทราบตัวบุคคลและรถยนต์ที่ใช้ในการขนย้ายทรัพย์สินของตนไปยังร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าวแล้ว แต่ในส่วนของคดียังไม่มีความชัดเจนและความคืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งที่ตนได้ติดตามคดีมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม 5 เดือนเศษ


จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ทรัพย์สินที่หายไป ทั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้าง และตู้คอนเทนเนอร์ได้ถูกร้านรับซื้อของเก่าชื่อดัง 2 ร้าน ซึ่งเป็นร้านพี่น้องกันในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ รับซื้อไป ทั้งที่ทราบตัวบุคคลและรถยนต์ที่ใช้ในการขนย้ายทรัพย์สินของตนไปยังร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าวแล้ว แต่ในส่วนของคดียังไม่มีความชัดเจนและความคืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งที่ตนได้ติดตามคดีมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม 5 เดือนเศษ

จึงต้องเดินทางมาร้องผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านไปยังผู้เกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งรัดคดีให้ด้วย เนื่องจากกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว นักลงทุนและนักท่องเที่ยวจะต้องมั่นใจว่า จ.กระบี่ มีความปลอดภัย


กำลังโหลดความคิดเห็น