ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อุบัติเหตุบนท้องถนนภูเก็ตพุ่งสูงและไม่มีแนวโน้มลดลง คาดสิ้นปีนี้ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 200 คนอย่างแน่นอน ศปภ.ภูเก็ต ผลักดันมาตรการจัดการความเสี่ยงหลักในพื้นที่ลดผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้อำนวยการประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แพทย์หญิงเหมือนแพร บุญล้อม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ชูชาติ นิจวัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฉลอง และประธานคณะกรรมการการโครงการความปลอดภัยทางถนน ภาค 3330 นพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ ผู้จัดการแผนงานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก ด้านความปลอดภัยทางถนน นายอุดมพร กาญจน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต และนายสมศักดิ์ โภคเนืองนอง นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าว “ความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต” เพื่อผลักดันมาตรการ จัดการความเสี่ยงหลักในพื้นที่ มุ่งเน้นการลดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ณ ห้องประชุมคอซิมบี้ อบจ.ภูเก็ต
ทั้งนี้ อุบัติเหตุทางถนนเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของผู้คนในจังหวัดภูเก็ตที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดภูเก็ต มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปีโดยเฉลี่ยปีละ 135 คน เฉลี่ยเดือนละ 11 คน แต่สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น จากการรายงานข้อมูลการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน (ที่มา : การบูรณาการข้อมูลการตายจากอุบัติเหตุทางถนน 3 ฐาน) ในเดือนมกราคม-เมษายน 2566 มีผู้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 64 ราย เทียบกับห้วงเวลาเดียวกัน เมื่อปี 2565 มีผู้เสียชีวิต จำนวน 41 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เฉลี่ยเดือนละ 16 ราย และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ รวมถึงนักท่องเที่ยวในกลุ่มรถเช่า
หากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่มีมาตรการป้องกันและลดการเสียชีวิตทางถนน รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตไม่ร่วมมือร่วมใจกันลดพฤติกรรมเสี่ยง มีแนวโน้มสูงที่ภูเก็ตจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 200 ราย ในปี 2566 ทางจังหวัดภูเก็ตจึงประกาศวาระเร่งด่วนของจังหวัด เพื่อการลดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้
กำหนดให้หน่วยงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะส่วนราชการต้องมีมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนน ได้แก่ การสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสารรถยนต์ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่ขับขี่ขณะเมาสุรา ชะลอความเร็วและหยุดรถเมื่อมีผู้ข้ามทางม้าลาย และให้ทางแก่รถพยาบาลและรถฉุกเฉิน เป็นต้น ซึ่งต้องจัดทำนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษรจากหัวหน้าหน่วยงาน มีมาตรการจัดการอย่างจริงจังให้บุคลากรทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการติดตามประเมินผล อย่างต่อเนื่อง
และให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และความตระหนักด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ตลอดจนความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยให้แก่ประชาชนอย่างเข้มข้น และต้องจัดการปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งด้านพฤติกรรมผู้ขับขี่ ยานพาหนะ ถนน และสภาพแวดล้อม ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย 100% ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย และประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการรถเช่าทุกประเภท โดยเฉพาะประเภทรถจักรยานยนต์ ต้องให้ความรู้ ตรวจสอบความสามารถของผู้เช่า และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและจัดระเบียบรถเช่าสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะชาวภูเก็ต เป็นเจ้าบ้านที่ดี และเป็นแบบอย่างที่ดีในการขับขี่มีวินัยให้แขกที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต
พร้อมกันนี้ หน่วยงานหลักด้านความปลอดภัยทางถนน ในคณะกรรมการ ศปถ.จังหวัดภูเก็ต ได้นำเสนอมาตรการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่และพร้อมขับเคลื่อนอย่างเต็มรูปแบบเพื่อผลักดันให้วาระเร่งด่วนข้างต้นบรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้ ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เน้นย้ำสถานการณ์การเสียชีวิต บาดเจ็บทางศีรษะ และอุบัติเหตุ นักท่องเที่ยว ที่สอดคล้องกับวาระเร่งด่วนของจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายหมวกนิรภัย 100% ภายใต้โครงการ “เตือนเพราะห่วง หมวก 100%” และกองร้อยน้ำหวาน สอดส่องความปลอดภัยของประชาชน
สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต เน้นขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถเช่า การบังคับใช้มาตรการควบคุมและจัดระเบียบรถเช่า และเชิญชวนประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ใช้ระบบ Traffy fondue ในการแจ้งเหตุ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรวดเร็วในการทราบปัญหาและดำเนินการแก้ไข และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ต จะเร่งประสานความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มีการขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้นขึ้น ด้วยความมุ่งหวังให้ประชาชนและผู้มาเยือนภูเก็ตมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นต่อไป