สุราษฎร์ธานี - น้องสาวสุดทน! เห็นคลิปพี่ชายถูกกลุ่มชายหญิงเกือบ 10 คน รุมทำร้ายจนสลบ โร่แจ้งความแต่พนักงานสอบสวน สภ.เคียนซา บอกให้ไปหาชื่อกลุ่มคู่กรณีมาเอง สุดท้ายมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ พร้อมเรียกร้องให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนเหตุกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวถูกปองร้าย
วันนี้ (2 ก.ค.) น.ส.ธันยาภรณ์ หรือแอน พิกุล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี นำนายเฉลิมพล พิกุล อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย และนายอภิวัฒน์ พิกุล อายุ 26 ปี ญาติ เดินทางมาจากอำเภอเคียนซา มาร้องเรียนผู้สื่อข่าวกรณีพี่ชาย และญาติผู้น้อง ถูกกลุ่มชายและหญิงเกือบ 10 คนรุมทำร้ายจนพี่ชายสลบคาเท้าได้รับบาดเจ็บ ดั้งจมูกหัก ดวงตาและศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน ส่วนญาติผู้น้องถูกแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ปที่แก้มด้านขวาจนทะลุ หลังเกิดเหตุไปแจ้งความแต่คดีไม่มีความคืบหน้า แถมพนักงานสอบสวนบอกให้ผู้เสียหายไปติดตามหารายชื่อกลุ่มคู่กรณีมา จะดำเนินการออกหมายจับให้
น.ส.ธันยาภรณ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ม.ย. เวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ พี่ชายและญาติผู้น้องได้ดื่มสุรากันที่บ้านจนเมาหนักทั้ง 2 คน ได้ขับมอเตอร์ไซค์ออกไปงานวัดปลายหริกศรัทธาราม ต.เคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อไปเที่ยวงานฉลองผ้าป่าและมีการแสดงคอนเสิร์ต เมื่อไปถึงวัดได้เดินไปหน้าเวทีเพื่อถ่ายรูปกับนักร้อง แต่ไปมีเรื่องชกต่อยกับนายแวว ก่อนจะโดนกลุ่มฝ่ายตรงข้ามประมาณ 6-7 คนรุมกระทืบและโดนเตะใบหน้าอย่างจังจนสลบส่วนญาติผู้น้องที่ไปด้วยถูกของมีคมไม่ทราบชนิดแทงบริเวณแก้มขวาได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งโรงพยาบาลเคียนซา คือ นายเฉลิมพล พิกุล อายุ 36 ปี อยู่ในอาการสลบไม่รู้สึกตัว มีเลือดออกที่จมูกและปาก และนายอภิวัฒน์ พิกุล อายุ 26 ปี ถูกแทงเข้าที่แก้มขวา 1 แผล และแพทย์ได้ส่งตัวนายเฉลิมพล ไป รพ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากกระดูกดั้งจมูกหักจนต้องรักษาตัวอยู่ รพ.สุราษฎร์ธานีนาน 2 วัน และแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน
น.ส.ธันยาภรณ์ ยังระบุอีกว่า ในเบื้องต้นมีคนบอกว่า พี่ชายของตนเมาและไปก่อเหตุ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปขอโทษคู่กรณีที่พี่ชายของตนไปก่อเรื่อง แต่เมื่อมีชาวบ้านนำคลิปที่ถ่ายไว้ในขณะเกิดเหตุมาให้ดู ตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เคียนซา โดยนำคลิปภาพวิดีโอที่เห็นใบหน้าผู้ก่อเหตุอย่างชัดเจนไปเป็นหลักฐานประกอบการแจ้งความดำเนินคดี แต่ถูกพนักงานสอบสวนบอกให้ตนกลับไปหาชื่อกลุ่มคนก่อเหตุมา ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายจับให้
ตนจึงไม่มั่นใจจะได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ เนื่องจากกลุ่มคู่กรณีมีนายเป็นคนมีสีคอยดูแล ประกอบกับหลังแจ้งความคดีไม่มีความคืบหน้า กลุ่มคู่กรณีเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่และปัจจุบันยังขับรถมาวนเวียนอยู่ที่หน้าบ้านของตน จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ เพื่อเรียกร้องให้ทางตำรวจเร่งดำเนินคดี และขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนในคดีนี้ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ด้วย
ด้านผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย บอกผู้สื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจำไม่ได้เหตุเพราะเมาหนัก
ล่าสุด พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีทราบเรื่องได้มีคำสั่งให้ทาง ผกก.สภ.เคียนซาเรียกคู่กรณีมาพบและให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยด่วน พร้อมจะพิจารณาข้อบกพร่องร้อยเวรต่อไป
