xs
xsm
sm
md
lg

โครงการชลประทานนราธิวาสชวนชม “ทุ่งดอกทานตะวัน” รับเทศกาลฮารีรายออิดิ้ลอัฎฮา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นราธิวาส - โครงการชลประทานนราธิวาส สำนักงานชลประทานที่ 17 เชิญชวนร่วมชมความงามของทุ่งดอกทานตะวันที่บานเต็มทุ่งในพื้นที่กว่า 3 งาน รับเทศกาลฮารีรายออิดิ้ลอัฎฮา บริเวณหัวงานบาเจาะ “ประตูระบายน้ำนราธิวาส 1” ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส

โครงการชลประทานนราธิวาส สำนักงานชลประทานที่ 17 เชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมชมความงามของทุ่งดอกทานตะวัน ที่ในวันนี้บานเต็มทุ่งในพื้นที่กว่า 3 งาน บริเวณหัวงานบาเจาะ “ประตูระบายน้ำนราธิวาส 1” ประตูระบายน้ำปลายคลองพรุบาเจาะสายใหญ่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 หัวงานพรุบาเจาะ บ้านทรายขาว ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ของโครงการชลประทานนราธิวาส สำนักงานชลประทานที่ 17 ขณะนี้มีดอกทานตะวันเบ่งบานเต็มลานทุ่ง

นายอดินันต์ หลานหมาด หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 ระบุว่า อยากสร้างจุดเช็กอินแห่งใหม่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในห้วงวันฮารีรายออิดิ้ลอัฎฮา ฮิจเราะห์ศักราช 1444 โดยวางแผนปลูกล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 1 เดือน ทั้งรดน้ำใส่ปุ๋ย ดูแลด้วยความใส่ใจเพื่อให้ดอกทานตะวันบานทันในช่วงเทศกาลฮารีรายออิดิ้ลอัฎฮา เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มาถ่ายภาพร่วมกัน และถือเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการชลประทานในพื้นที่ด้วย


สำหรับผู้ที่สนใจมาชมความสวยงามของทุ่งดอกทานตะวันโครงการฝายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานนราธิวาส สำนักงานชลประทานที่ 17 เปิดให้ชม แชะ เช็กอินฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถเดินทางจากแยกบ้านทอน เลยค่ายจุฬาภรณ์ประมาณ 1-2 กิโลเมตร ทางเข้าอยู่ขวามือป้ายโรงเรียนบ้านทรายขาว เลยโรงเรียนมาเล็กน้อย เมื่อถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายจะเห็นป้ายโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพรุบาเจาะ สามารถเข้ามาได้โดยที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.โดยเวลาที่ถ่ายภาพสวยที่สุดจะเป็นห้วงเวลา 15.00-17.00 น. ทั้งนี้ จะมีเวลาสำหรับการบันทึกภาพความสวยงามประมาณ 1-2 สัปดาห์จากนั้นดอกทานตะวันจะเริ่มโรยรา

สำหรับพื้นที่แห่งนี้มีความสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โครงการชลประทานเป็นอย่างยิ่ง โดยเมื่อปี 2517 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรและปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดใกล้เคียง ทรงทราบว่าพื้นที่บริเวณพรุบาเจาะมีสภาพดินเปรี้ยวจัดไม่สามารถทำประโยชน์ได้

อีกทั้งสภาพพื้นที่เป็นหนองน้ำ (พรุ) ไร้ประโยชน์ และราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณขอบพรุในเขตอำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ และอำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ประสบปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากน้ำป่าจากภูเขาไหลลงสู่พื้นที่พรุ จึงพระราชทานพระราชดำริกับอธิบดีกรมชลประทานให้พิจารณาหาทางแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้ราษฎรสามารถทำการเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตรและมีน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี


จึงได้มีการก่อสร้างประตูระบายน้ำปลายคลองพรุบาเจาะสายใหญ่ คอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 6.00x3.70 เมตร จำนวน 3 ช่อง ในโครงการพรุบาเจาะ-ไม้แก่น ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส เมื่อปี 2517-2518 โดยเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2518 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จมาทรงเปิดประตูบังคับน้ำ “นราธิวาส 1 ปลายคลองบาเจาะ” ที่เป็นประตูบังคับน้ำแห่งแรกของจังหวัดนราธิวาส และภาคใต้

ซึ่งโครงการตามแนวพระราชดำริดังกล่าวได้ทำให้การระบายน้ำออกจากพรุบาเจาะ-ไม้แก่นไหลลงสู่ทะเลเร็วขึ้น เป็นการบรรเทาปัญหาอุทกภัยช่วงฤดูฝนในพื้นที่รอบขอบพรุ และเก็บกักน้ำไว้เพื่อการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง จำนวน 96,400 ไร่ สำหรับพื้นที่ใหม่ซึ่งบุกเบิกแล้วนำมาใช้เพาะปลูกได้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริให้มีการปรับปรุงพื้นที่เหล่านั้นแล้วจะสอนให้ราษฎรเข้ามาทำกินและทำประโยชน์ในรูปแบบสหกรณ์

อนึ่งในปี พ.ศ.2519 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร ณ หมู่บ้านลูโบะดาโต๊ะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ได้พระราชทานพระราชดำริกับอธิบดีกรมชลประทานเพิ่มเติมว่า นอกจากการระบายน้ำโดยคลองระบายน้ำของโครงการพรุบาเจาะแล้ว สำหรับพื้นที่ขอบพรุด้านอำเภอไม้แก่นจะมีลำน้ำธรรมชาติไหลลงสู่ทะเลทางลำน้ำกอตออีกทางหนึ่ง หากทำการขุดลอกคลองธรรมชาติ และขุดลอกคลองระบายน้ำเพิ่มเติมตามความจำเป็น พร้อมทั้งสร้างอาคารบังคับน้ำเพื่อการระบายในฤดูฝนและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งจะช่วยพื้นที่นาในเขตอำเภอไม้แก่นได้อีกไม่น้อยกว่า 30,000 ไร่ จึงพระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาโครงการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่นาในบริเวณเหล่านี้ด้วย อีกทั้งเมื่อครั้งอดีตพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตามเสด็จมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ดังกล่าวด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น