สุราษฎร์ธานี - เด็ก 16 ถูกเพื่อนกรีดหน้า ร้อง “กัน จอมพลัง” ช่วย หลังเกิดเหตุครูไม่เรียกรถพยาบาล พาไปส่งเอง พร้อมบอกอย่ากระจ่ายข่าว ขอให้ลงเป็นอุบัติเหตุ ส่วนคู่กรณีให้เข้าเรียนตามปกติ แจ้ง ตร. บอกทนายใครเก่งคนนั้นชนะ
จากรณีเพจเฟซบุ๊ก กัน จอมพลัง ได้โพสต์ภาพและข้อความว่า “น้องอายุ 16 จากสุราษฎร์ธานี ทักมาขอให้ผมช่วยถูกเพื่อนเอาคัตเตอร์กรีดหน้าจากเบ้าตาถึงลำคอต่อด้วยกรีดแขนและท้องในโรงเรียน น้องเล่าว่าครูไม่ยอมเรียกรถพยาบาล แต่ไปส่ง รพ.เองและพยาบาลมาบอกน้องว่า ครูขอพยาบาลว่าอย่ากระจายเรื่องและให้ลงเป็นอุบัติเหตุเพราะกลัวโรงเรียนเสียชื่อเสียง หลังเกิดเหตุโรงเรียนไม่เคยมาเยี่ยม แถมให้คู่กรณีเรียนปกติ แถมน้องถูกคู่กรณีแจ้งความ ตำรวจบอกทนายใครเก่งคนนั้นชนะ ผมรับปากช่วยและกำลังเดินทางจากภูเก็ต ไปสุราษฎร์ธานีเพื่อช่วยน้องครับ”
ล่าสุด วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ สภ.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี กัน จอมพลัง หรือนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ได้พาน้องตอง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาที่ สภ. เข้ามาพบ นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีพ.ต.อ.ศิริชัย พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.ฐิติวัชร์ สุฐิติวนิช ผกก.สภ.ขุนทะเล ตัวแทนจาก พมจ.สุราษฎร์ธานี ยุติธรรมจังหวัด การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร และ ผอ.โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 และร่วมรับฟังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
หลังจากการประชุมรับฟังข้อเท็จจริง กัน จอมพลัง พร้อมผู้ปกครองของเด็กได้ลงมาพบกับสื่อมวลชน โดยกัน จอมพลัง กล่าวว่า น้องตอง อายุ 16 ปี ได้ร้องไปที่เพจว่า ทะเลาะกับเพื่อนถูกคัตเตอร์กรีดหน้าตั้งแต่เบ้าตาถึงคอ ลึกไปที่ท้องและแขน ซึ่งน้องมีหลายส่วนที่ไม่สบายใจ ในส่วนแรกหลังจากถูกทำร้ายทำไมไม่เรียกรถโรงพยาบาล โรงเรียนไปส่งเอง รวมถึงมีพยาบาลมาบอกว่าคุณครูแจ้งพยาบาลว่าเป็นอุบัติเหตุได้มั้ย จึงทำให้ไม่สบายใจ
ตน และทางเพจจึงประสานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออก หลังจากพูดคุยก็ได้รับความคืบหน้า เช่น ทางโรงเรียน ก่อนหน้านี้บอกว่าทางโรงเรียนไม่เกี่ยวข้อง ในวันนี้ ผอ.โรงเรียนได้เดินทางมาเอง รวมถึงสมาคมผู้ปกครอง ถ้าน้องไม่สบายใจที่จะเรียนที่เดิมจะหาที่ใหม่ให้ ในเรื่องของคดีที่ต้องมีนักสหวิชาชีพ และเงินเยียวยา ทางยุติธรรมจะเข้ามาประสานช่วยเหลือ
ในการเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้จะมาทุบใคร แค่อยากให้น้องได้รับการช่วยเหลือ แต่ในเรื่องนี้ อยากให้เป็นบทเรียนของโรงเรียนอื่นๆ ไม่ใช่แค่ทำเรื่องนี้ให้จบแล้วกลบไป ต้องมองเรื่องอาวุธ ต่อไปจะดูแลยังไง เกิดขึ้นแล้วจะดูแลเยียวยาอย่างไร ในส่วนด้านคดีจะติดตามแน่นอน ซึ่งทางผู้กำกับพร้อมจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทางด้านคุณพ่อของคู่กรณีติดต่อที่จะเยียวยามาแล้ว ซึ่งจะเป็นคนกลางประสานให้
ด้าน นางเกษมณี แซ่ขวย อายุ 40 ปี แม่ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกพอใจในส่วนหนึ่งที่ทางคุณกัน ได้มาช่วยน้อง ความต้องการตอนนี้คือ ช่วยทำยังไงก็ได้ให้หน้าลูกสาวกลับมาปกติ เพราะหน้าเป็นจุดสำคัญ ส่วนสภาพจิตใจค่อนข้างแย่ กลัวจะถูกล้อเลียน
ขณะที่ นายเชิดชาย ช่วงเสน ผอ.สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ถ้าผ่านกระบวนวนการสืบสวนทางยุติธรรมจะเยียวยาต่อ พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม ประมาณ 5 หมื่นบาท แต่ต้องรอกระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเสียก่อนจึงจะดำเนินการได้
