xs
xsm
sm
md
lg

อยากอร่อยต้องแยกให้ออก “โอฉี่ หรือมูซังคิง” พันธุ์ทุเรียนขึ้นชื่อของอำเภอเบตง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - อยากอร่อยแยกให้ออก “โอฉี่ หรือ มูซังคิง” พันธุ์ทุเรียนขึ้นชื่อของอำเภอเบตง จ.ยะลา โดยลักษณะของทุเรียนโอฉี่ ที่ตูดทุเรียนจะเป็นหนามดำ เนื้อออกสีส้มพาสเทล ส่วนทุเรียนมูซังคิง ตูดทุเรียนจะเป็นดาว เนื้อจะออกสีเหลืองทอง

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สวนโกดังส้ม ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา นายสามารถ บาสาลอ ผู้จำหน่ายทุเรียนในพื้นที่กำลังเก็บทุเรียนสายพันธุ์โอฉี่ ซึ่งเป็นทุเรียนอีกหนึ่งสายพันธุ์ของประเทศมาเลเซีย และเป็นทุเรียนขึ้นชื่อของมาเลเซียที่นักบริโภคทุเรียนนิยมรับประทานกัน ลักษณะของทุเรียนโอฉี่ ที่ตูดทุเรียนจะเป็นหนามดำ ส่วนทุเรียนมูซังคิง ตูดทุเรียนจะเป็นดาว ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์จากประเทศมาเลเซีย ซึ่งชาวเกษตรกรของอำเภอเบตงได้นำพันธุ์ทุเรียนทั้ง 2 สายพันธุ์นี้มาปลูกในพื้นที่

ส่วนพื้นที่ปลูกทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา จะปลูกบนพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร ทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่นี้จะมีลักษณะแข็งนอก นุ่มใน กรอบ อร่อย โดยในพื้นที่ อ.เบตง มีทุเรียนทั้งหมอนทอง มูซังคิง หนามดำ พวงมณี ชะนี ก้านยาว ในพื้นที่มีทุเรียนที่หลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะทุเรียนพื้นเมืองที่มีรสชาติอร่อยมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับการผสมสายพันธุ์ด้วย ซึ่งตอนนี้การเกษตรและการท่องเที่ยวของ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นของคู่กัน หากการท่องเที่ยวดี มีการเกษตรช่วยหนุนเสริม เน้นคุณภาพเป็นหลัก จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดียิ่งขึ้นด้วย

เนื่องจาก อ.เบตง จ.ยะลา มีพรมแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นอีกประเทศหนึ่งที่นักบริโภคทุเรียนจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและแวะสวนทุเรียนในพื้นที่ จนเป็นที่ยอมรับว่ารสชาติทุเรียนทั้ง 2 สายพันธุ์ ทั้งโอฉี่ หรือ หนามดำ และมูซังคิง มีรสชาติหอม อร่อย เนื้อเป็นครีม ละลายในปาก กินไม่รู้จักอิ่มเลยทีเดียว ซึ่งทุเรียนที่ปลูกในประเทศเขารสชาติสู้ของ อ.เบตง ไม่ได้


นายสามารถ บาสาลอ ผู้จำหน่ายทุเรียน บอกว่า ทุเรียนทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ตนมีความเชื่อมั่นในรสชาติระหว่างทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่กับที่ปลูกต่างประเทศ และคิดว่าทุเรียนที่ปลูกในประเทศไทยค่อนข้างมีคุณภาพ ส่วนในเรื่องของเนื้อทุเรียนและการปลูก เนื่องจากเกษตรกรบ้านเรามีความพิถีพิถันในการปลูกดูแลเอาใจใส่อย่างดี ซึ่งเชื่อว่าสามารถสู้กับประเทศอื่นได้ และในปีที่ผ่านมา ยังเป็นระดับต้นๆ ของโลกที่ส่งออก โดยมูลค่าการส่งออกทุเรียนของไทยในปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า ในช่วงระยะเวลาเพียง 5 ปีที่ผ่านมา เป็น 110,000 ล้านบาท จนทำให้ในวันนี้ประเทศไทยขึ้นแท่นเบอร์ 1 ผู้ส่งออกทุเรียนของโลก แต่ตลาดส่งออกหลักของเราแทบทั้งหมดคือ ประเทศจีน

ส่วนความแตกต่างระหว่างทุเรียน 2 สายพันธุ์นี้มีลักษณะแตกต่างกัน ทุเรียนสายพันธุ์โอฉี่หรือหนามดำ มีลักษณะเนื้อออกสีส้มพาสเทล ส่วนทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิง เนื้อจะออกสีเหลืองทอง ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์นักบริโภคนิยมกินแบบครีมมี่ มีความนุ่มละเอียด ละลายในปาก ส่วนราคาขึ้นอยู่กับต้นแก่ ต้นสาว ซึ่งตอนนี้มีหลายราคา อย่างทุเรียนสายพันธุ์โอฉี่ หรือหนามดำ เกรด B อยู่ที่กิโลกรัมละ 550 บาท ส่วนเกรด A อยู่ที่กิโลกรัมละ 650 บาท ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์นี้จะมีราคาพอกัน

ส่วนความเชื่อมั่นกรณีคู่ค้าต่างประเทศตีตลาดไทย นายสามารถ บอกว่า ตนเองมีความเชื่อมั่นเพราะทางส่วนราชการได้มีการควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อนในการออกสู่ตลาด และมีการรณรงค์ให้เกษตรกร ผู้รับซื้อ และผู้มีอาชีพตัดทุเรียนเก็บเกี่ยวทุเรียนในระยะเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม รวมทั้งการรณรงค์การไม่ซื้อ ไม่ขายทุเรียนอ่อนด้วย จึงมีความมั่นใจในทุเรียนของไทยเราที่สู้คู่แข่งได้




กำลังโหลดความคิดเห็น