สุราษฎร์ธานี - มอบตัวแล้วหนุ่มปืนโหดยิงชายวัย 61 ดับคาที่ อ้างเหตุตกลงปัญหาซื้อที่ดินไม่ลงตัว มีปากเสียงจนเกิดเหตุบานปลาย พร้อมระบุผู้ตายใช้มีดไล่ฟันก่อน จนต้องใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัว
จากกรณ๊เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 19 มิ.ย. ที่ สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมบัติ ชุมพล ผกก.(สอบสวน) บช.ภ.8 รรท.ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคม พ.ต.ต.สมเกียรติ สังข์นาค สว.กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.ต.นพรุจ พินเมือง สว.สส.สภ.คีรีรัฐนิคม ร่วมกันรับมอบตัว และสอบปากคำ นายธวัชชัย เชาวนศินลป์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 8 ต.ท่ากระดาน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ที่เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. หลังก่อเหตุยิงนายนายสุวัช เทียมยม อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 8 ต.ท่ากระดาน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 19.42 น. วันที่ 18 มิ.ย. พ.ต.ต.จเร ขำแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดที่หน้าบ้านเลขที่ 3 ม.3 ต.ท่ากระดาน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อไปตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิต คือ นายสุวัช
เบื้องต้น สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายนายธวัชชัย หรือแป๊ก เชาวนศิลป์ มีศักดิ์เป็นหลานของผู้ตาย โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายมาบ้านที่เกิดเหตุเพื่อซ่อมรถไถ มีนายแป๊ก พร้อมภรรยาขับรถ จยย.มาหา และมีปากเสียงกันเกี่ยวกับรถ จยย.ที่นายแป๊ก นำของญาติอีกคนไปใช้แล้วไม่นำมาคืน รวมถึงเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินเนื้อที่ 3 ไร่ ของผู้ตายที่ผู้ก่อเหตุเข้าไปทำประโยชน์ ก่อนที่นายแป๊ก และภรรยาจะขับรถออกไป หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที นายแป๊ก ได้กลับมาอีกครั้งกับรถยนต์ เมื่อเห็นนายสุวัช กำลังซ่อมรถไถอยู่ได้ตรงเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่แล้วหลบหนีไป
เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ตนเองได้ซื้อที่ดิน จำนวน 3 ไร่ ของนายสุวัช ในราคา 200,000 บาท และเข้าไปทำประโยชน์ แต่ก่อนเกิดเหตุตนทราบจากญาติๆว่านายสุรัช ตามหาตนเพื่อพูดคุยเรื่องที่ดินแปลงดังกล่าว ตนจึงไปหาบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งนายสุวัช แจ้งตนว่าต้องการซื้อที่ดินคืน แต่เป็นไปในลักษณะผ่อนจ่าย จึงตกลงกันไม่ได้และมีปากเสียงกัน
โดยนายธวัชชัย อ้างว่านายสุวัช พยายามใช้มีดพร้าไล่ทำร้ายก่อน จึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงเข้าใส่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป