ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้ ร่อนหนังสือจี้ผู้ว่าฯ จ.กระบี่ ลดเงื่อนไขสัมปทานรังนก หลังไร้ผู้เข้ายื่นประมูล หวั่นซ้ำรอยรังนกเสียหายเหมือนในพื้นที่ จ.พัทลุง
นายพิพัตร อมรวัตพงศ์ รองนายกสมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้ ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในฐานะกรรมการจัดเก็บอากรภาษีรังนกอีแอ่นหมู่เกาะกระบี่ หลังสัญญาสัมปทาน หมดสัญญาลงเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 โดยทางคณะกรรมการได้ตั้งราคากลางไว้ที่ 160 กว่าล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เข้าสัมปทาน จนเกิดช่องว่าง ทำให้เกรงว่านกอีแอ่นที่กำลังวางไข่และออกลูก บริเวณตามเกาะต่างๆ ของจังหวัดจะได้รับความเสียหาย และมีการขโมยจนวงจรชีวิตนกอีแอ่นที่เป็นเงินภาษีรายได้จากธรรมชาติต้องหมดไป
นายพิพัตร อมรวัตพงศ์ รองนายกสมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้ กล่าวว่า ด้วยตามที่สมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้ ได้เรียนเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นผู้ให้สัมปทานการจัดเก็บรังนกในเขตท้องที่จังหวัดกระบี่ ดำเนินการเปิดประมูลให้มีผู้รับสัมปทานโดยเร็ว เพื่อมิให้ขาดช่วงผู้รับสัมปทาน ก่อนสัญญาสัมปทานของผู้รับสัมปทานเดิมจะสิ้นสุดลง
เนื่องจากขณะนี้นกอีแอ่นได้ออกไข่และฝักไข่เป็นลูกนก หรือตัวอ่อนไปแล้ว จำเป็นต้องมีผู้เฝ้าระวังมิให้ผู้ใดเข้าไปทำอันตราย หรือขโมยเก็บรังนก อันเป็นการทำลายลูกนกที่อาศัยอยู่ในรังตกลงมาตาย และนกต้องละถิ่นฐานไป ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประชากรของนกอีแอ่น อาจสูญพันธุ์ไป หรือลดจำนวนลงไปเป็นจำนวนมาก
ซึ่งหากไม่มีผู้รับสัมปทาน จังหวัดต้องจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเฝ้าระวัง ดูแล รักษาเกาะรังนกไว้ เพื่อป้องกันคุ้มครองนกอีแอ่นมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงว่างเว้น จนกว่าจะได้ผู้รับสัมปทานรายใหม่ อันจะเป็นการสร้างภาระ และค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และอาจเป็นสาเหตุให้เจ้าหน้าที่บางคน หรือบางหน่วยงาน รู้เห็นเป็นใจหรือเข้าไปลักขโมยเก็บรังนกเสียเอง อันเป็นความผิดต่อกฎหมาย จนเป็นข่าวใหญ่โตอย่างกรณีของจังหวัดพัทลุง ซึ่งทางจังหวัดหรือผู้ให้สัมปทานต้องรับผิดชอบ และถูกฟ้องร้องดำเนินคดีให้ชดใช้ค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น และเป็นสาเหตุทำให้ไม่มีผู้ใดเข้าร่วมประมูลเสนออากรให้กับรัฐ หรือเสนอค่าอากรในราคาตํ่าลงไปเป็นอันมาก สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ดังกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับจังหวัดพังงา จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดตรัง จังหวัดตราด เป็นต้น มีการเปิดประมูลให้สัมปทานการจัดเก็บรังนกในเขตท้องที่จังหวัดกระบี่ไปแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดเข้าประมูลเสนอราคาแม้แต่เพียงรายเดียว
คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บรังนกอีแอ่นจังหวัดกระบี่ จึงต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเฝ้าระวังเกาะรังนกไว้ ในระหว่างช่วงปลอดผู้รับสัมปทาน และต่อมาสมาคมฯ ได้ทราบข่าวว่า มีกลุ่มบุคคล หรือขบวนการเข้าไปลักลอบเก็บรังนกตามเกาะต่างๆ ในเขตสัมปทาน ทั้งๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ลงไปเฝ้าเกาะรังนกไว้แล้วก็ตาม มีลักษณะคล้ายคลึงกับกรณีของจังหวัดพัทลุง จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
โดยทางสมาคมฯ ยินดีอำนวยความสะดวกพาหนะเรือในการเดินทาง และเป็นสักขีพยานให้ด้วย จนกระทั่งบัดนี้ ทางสมาคมฯ ยังไม่ได้รับการประสานงาน หรือได้รับหนังสือตอบกลับแต่อย่างใด นอกจากนั้นสมาคมฯ ยังได้รับภาพถ่ายสภาพรังนกภายในถ้ำต่างๆ ในปัจจุบันตามเกาะรังนก แสดงให้เห็นได้ว่าขณะนี้เป็นช่วงที่นกอีแอ่นได้ออกไข่ฝักลูกเป็นตัวไปแล้ว อันเป็นช่วงสำคัญที่สุดที่จะต้องไม่ให้ผู้ใดเข้าไปลักขโมยเก็บรังนกไปได้ มิฉะนั้นแล้วจะเป็นเหตุให้ลูกนกถูกทำลายไป ลดจำนวนลง และละถิ่นฐานไปในที่สุด โดยบทบัญญัติของกฎหมาย และในเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานทั่วประเทศ ยังบัญญัติห้าม แม้นผู้ที่ได้รับสัมปทานจัดเก็บรังนกเองก็ตาม หากนกออกไข่เป็นตัวไปแล้ว ห้ามมิให้ทำการจัดเก็บจนกว่าลูกนกจะเติบโต และบินออกไปจากรังไปทั้งหมด จึงจะสามารถเข้าทำการจัดเก็บได้ ก็ด้วยเหตุผลถึงความสำคัญในเรื่องนี้ มิฉะนั้นแล้วจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ตามที่สมาคมฯ ได้แจ้งให้ทางจังหวัดรับทราบเป็นหนังสือแล้ว และปรากฏตามภาพถ่ายสิ่งที่ส่งมาพร้อมหนังสือฉบับนี้ด้วยแล้ว
ทางสมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้ ขอเรียนเสนอว่า แม้นทางจังหวัดจะได้ดำเนินการเปิดประมูลให้สัมปทานเป็นครั้งที่ 2 ก็ตาม แต่เมื่อมีข่าวขบวนการเข้าไปลักขโมยเก็บรังนกในขณะนี้ แต่ทางจังหวัดมิได้ปฏิเสธ และแสดงหลักฐานใดๆ ว่าไม่มีเหตุการณ์ข่าวลือดังกล่าวขึ้นจริง ทั้งยังเปิดประมูลให้สัมปทานโดยมีเงื่อนไข และราคากลางในลักษณะเช่นนี้ เชื่อว่าคงไม่มีผู้ใดเข้าร่วมประมูลเสนอราคาแม้นแต่เพียงรายเดียว เช่นเหมือนครั้งแรกอย่างแน่นอน
ซึ่งรังจะยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายมากมายยิ่งขึ้น เหตุที่ไม่มีผู้ใดเข้าประมูลเสนอราคาแม้นแต่เพียงรายเดียว จนกระทั่งเกิดเป็นปัญหา และความเสียหายดังกล่าวขึ้น ก็เนื่องมาจากเงื่อนไขในการเปิดประมูลให้สัมปทานนั้น ไม่เหมาะสมหรือเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าประมูล โดยเฉพาะการตั้งราคากลางที่สูงเกินจริง เพราะปัจจุบันราคารังนกธรรมชาติของประเทศไทย ในตลาดโลกไม่ได้มีราคาสูงเหมือนดังอดีต ประกอบกับยังติดปัญหาการนำเข้าไปยังประเทศสาธารณะประชาชนจีน ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของประเทศไทย ทั้งเงื่อนไขในเรื่องปัญหาการที่ผู้รับสัมปทานต้องปฏิบัติตามระเบียบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ซํ้าซ้อนและขัดแย้งกัน กับเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานจังหวัดกระบี่ ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขให้แน่ชัด ทั้งๆ ที่พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 ได้ให้อำนาจสิทธิขาดเป็นของคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรังนกอีแอ่นของแต่ละจังหวัด เป็นผู้มีอำนาจอย่างชัดแจ้งอยู่แล้วก็ตาม
ประกอบกับขณะนี้เมื่อมีข่าวการเข้าไปขโมยเก็บรังนกตามเกาะรังนกด้วยแล้ว ผู้ที่จะเข้าประมูลจึงเกิดความไม่มั่นใจว่า หากเรื่องดังกล่าวนี้เป็นความจริง ก็จะส่งผลกับประชากรของนก และรังนกที่ต้องลดน้อยเสียหายไปเป็นอันมาก จึงไม่มีผู้ใดเข้าร่วมประมูล หรือหากจะประมูลก็เสนอราคาที่ตํ่าลงไปจากเดิมเป็นอันมาก เหมือนดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจังหวัดต่างๆ
ดังที่ได้เรียนเสนอมาตั้งแต่แรกแล้ว ด้วยเหตุผล และปัจจัยมูลเหตุดังที่เรียนมานี้ จึงขอได้โปรดดำเนินการแก้ไขเงื่อนไขในการเปิดประมูลให้เหมาะสมเป็นการด่วนที่สุด เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อรัฐอย่างใหญ่หลวง โดยไม่สามารถแก้ไขเยียวยาในภายหลังให้คงเดิมได้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา