กระบี่ - เจ้าของบ้านบ้านสุดทน โจรบุกขโมยทรัพย์สินภายในบ้านจนเกลี้ยงไม่เหลืออะไร แจ้งความไว้ที่ สภ.คลองท่อม ตั้งแต่ปีทีแล้วคดีไม่คืบ
วันนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางสุวรรณี คงสอน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/3 ม.2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ว่าบ้านถูกโจรเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านหลายครั้งจนหมดเกลี้ยงบ้าน แม้แต่ประตูหน้าต่างก็ไม่เหลือ แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ สภ.คลองท่อม แต่คดีไม่คืบ
โดยนางสุวรรณี เล่าว่า บ้านหลังนี้อาศัยอยู่กับคุณแม่ด้วยกัน 2 คน ส่วนลูกคนอื่นๆ มาเยี่ยมและดูแลไปๆ มาๆ สัปดาห์ละประมาณ 3-4 วัน เมื่อประมาณเดือน ก.พ.2565 คุณแม่ อายุ 82 ปี มีอาการป่วย ต้องรักษาโดยการผ่าตัดปอด รพ.ตากสิน กทม. และเมื่ออกจาก รพ.ได้รับการแนะนำจากแพทย์เจ้าของไข้ให้พักรักษาอยู่ใกล้ รพ.เพื่อสะดวกในการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา ประมาณเดือน ธ.ค 65 คุณแม่ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดปอดอีกครั้งที่ รพ.เดิม ลูกจึงไปเฝ้าดูแลคุณแม่ที่ กทม.ให้ลูกเขย และหลานดูแลบ้านให้ โดยไปกลับสัปดาห์ละประมาณ 2-3 วัน และนอกจากนี้ได้ฝากบ้านไว้กับผู้ใหญ่ในท้องที่ ไม่ได้ทิ้งบ้าน โดยมีทรัพย์สินหลายอย่าง สาเหตุที่ไม่เอาทรัพย์สินออกจากบ้านคิดว่าคุณแม่หายป่วยเป็นปกติ จะกลับมาอยู่บ้านเช่นเดิม
สำหรับทรัพย์สินในบ้านสูญหายเหตุเกิดครั้งแรกกลางเดือน มี.ค.65 คนร้ายงัดประตูและงัดหน้าต่างด้านในครัวเข้ามาในบ้าน ขโมยทรัพย์สินมีค่าเป็นเงินสดแบงก์ร้อยใหม่ของคุณแม่เก็บไว้ในซองขาวและเงินที่ลูกให้รวมแล้วเป็นเงินกว่า 1 หมื่นบาท วางไว้ในห้องนอน และนอกจากนี้ มีทีวี เครื่องปั๊มน้ำ เครื่องตัดหญ้า เครื่องมือช่างเครื่องมือการเกษตร และสายไฟฟ้าบางส่วนหายเกลี้ยง
เบื้องต้นได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านในท้องที่หมู่ 2 ต.คลองท่อมใต้ รับทราบ และได้แจ้งความกับตำรวจที่ สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ แต่ไม่ได้รับข่าวคืบหน้าอะไรเลย ระยะหลังที่ไปเจอร่องรอยของโจรเข้ามางัดบ้านเข้าขโมยทรัพย์สินอีกเลยไม่ได้แจ้งความ แต่แจ้งผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ทราบ และเหมือนเดิมไม่ได้ข่าวคืบหน้าอะไรเลย โจรยังเข้าขโมยเรื่อยๆ จนทรัพย์สินพังเสียหายหมดบ้าน ทั้งเครื่องครัว ตู้กับข้าว จานชามโต๊ะ เก้าอี้ ทุบอ่างล้างจาน ตัดก๊อกน้ำในบ้านทุกจุด ตัดเหล็กดัดหน้าต่าง เหล็กดัดประตูบ้าน ประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน เหล็กปิดช่องระบายอากาศในห้องครัว และสายไฟฟ้าทั้งในบ้านและนอกบ้านหายหมด
ตอนนี้ยอมรับว่าสุดทนกับพฤติกรรมของโจร และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ล่าช้ามาก จึงต้องขอความช่วยเหลือสื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางไปถึงเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย