xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรตรังหันมาปลูกพริกไทยพุ่มลดต้นทุน ให้ผลผลิตตลอดปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - เกษตรกรใน ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง หันมาปลูกพริกไทยพุ่ม แทนการปลูกพริกไทยค้างแบบเดิมๆ ซึ่งช่วยให้ประหยัดต้นทุนกว่า แถมยังดูแลรักษาง่าย รวมทั้งเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ง่ายต่อเนื่อง สร้างรายได้ให้ตลอดปี

“พริกไทย” หนึ่งในพืชเศรษฐกิจของจังหวัดตรัง ที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเหมือนเช่นอดีต โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างไรก็ตาม การปลูกส่วนใหญ่จะใช้วิธีการทำค้างให้ต้นพริกไทยเลื้อยขึ้นไปบนเสาปูน หรือไม้แก่น แต่ปัจจุบันค้างไม้ค่อนข้างหายากและมีราคาแพง ส่วนค้างปูนเกษตรกรบางรายระบุว่า แม้วิธีการนี้จะสะดวก แต่ต้นพริกไทยดูไม่ค่อยเจริญเติบโตดีเหมือนกับการเลื้อยขึ้นไปบนค้างไม้ เพราะค้างปูนเก็บสะสมความร้อนได้ง่าย ได้นาน และไม่เป็นธรรมชาติ


ดังนั้น จึงมีเกษตรกรในตำบลช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง พื้นที่ริมป่าเทือกเขาบรรทัด รอยต่อกับจังหวัดพัทลุง ได้ลองหันมาปลูกพริกไทยพุ่ม ด้วยการนำกิ่งแขนงของพริกไทยพันธุ์พื้นบ้าน ซึ่งมีลักษณะเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม นิยมใช้ในการทำเครื่องแกงชนิดต่างๆ เสียบยอด โดยใช้ต้นตอเป็นต้นโคโลบีนั่ม ที่มีลักษณะเด่นตรงที่มีความแข็งแรง ทำให้มีโรคและแมลงรบกวนน้อย โดยเฉพาะความต้านทานต่อโรครากเน่าของพริกไทย อันเป็นโรคสำคัญของพืชชนิดนี้ เมื่อยอดติดดีแล้วจึงนำต้นไปปลูกลงดิน หรือปลูกในภาชนะ เช่น ตะกร้า กระถาง กระสอบ

จุดเด่นของพริกไทยพุ่มคือ จะมีผลผลิตออกมาตลอดปี จึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ต่อเนื่อง และทำให้มีรายได้ทั้งปี ต่างไปจากพริกไทยค้างที่จะมีผลผลิตออกมาแค่ปีละครั้ง เฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ขณะเดียวกัน พริกไทยพุ่มยังมีต้นเตี้ย ทำให้ดูแลรักษาง่าย เก็บผลผลิตง่าย ไม่ต้องปีนป่ายสูงๆ จึงสะดวกต่อผู้สูงอายุ แถมยังปลูกได้ในวัสดุแคบๆ ซึ่งเหมาะต่อบ้านที่มีพื้นที่น้อย รวมถึงห้องแถว ตึกแถว ที่ต้องการเด็ดไปใช้ในครัวเรือนแบบอยู่ใกล้มือ เพียงแต่ผลผลิตของพริกไทยพุ่มอาจจะน้อยกว่าพริกไทยค้าง เฉลี่ย 20-30 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เนื่องจากต้นเล็กกว่าเท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจการปลูกพริกไทยพุ่ม สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ นายสถิตย์ รัมนา ประธานศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลช่อง โทร.08-7270-0409 หรือ 06-3459-7029






กำลังโหลดความคิดเห็น