xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเส้นทางความสำเร็จ “พรทิพย์ภูเก็ต” ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งร้านของฝาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตามมาเปิดเส้นทางความสำเร็จ “พรทิพย์ภูเก็ต” ร้านดังอยู่คู่ตำนานภูเก็ตกว่า 30 ปี ขึ้นแท่นร้านของฝากเบอร์หนึ่งในภูเก็ต ที่มีกลยุทธ์การทำตลาดที่ไม่เหมือนใคร


สำหรับร้านของฝากที่อยู่คู่จังหวัดภูเก็ตมาอย่างยาวนาน คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก “ร้านพรทิพย์” ซึ่งถือว่าเป็นตำนานร้านของฝากที่อยู่คู่กับภูเก็ตมานานกว่า 30 ปี เป็นร้านขายของฝากที่รู้จักกันทั่วประเทศ อะไรที่ทำให้ร้านขายของฝากแห่งนี้สามารถอยู่มาได้อย่างยาวนาน และสามารถขึ้นแท่นเป็นร้านขายของฝากเบอร์หนึ่ง แม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องฝ่าฟันวิกฤตเศรษกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตต้มยำกุ้ง สึนามิถล่ม และล่าสุดวิกฤตโควิด

ต้องมาฟังจาก “นายวิรวัฒน์ เปี่ยมวิวัตติกุล” เจ้าของร้านของฝาก “พรทิพย์ภูเก็ต” ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา ร้านพรทิพย์เองได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ มาในหลายครั้ง เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายรอบ ตั้งแต่วิกฤตสึนามิ มาจนถึงสถานการณ์โควิด แต่ยังสามารถอยู่รอดไปต่อได้ถึงปัจจุบัน ด้วยการปรับตัวในทุกสถานการณ์ ปรับกลยุทธ์หันมาบุกตลาดอีคอมเมิร์ซ เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายในทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงการไม่หยุดนิ่งพัฒนาสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า


วันนี้ร้านพรทิพย์ของฝากภูเก็ตมีสินค้าของฝากพร้อมให้บริการลูกค้าได้เลือกชอปกว่า 500 รายการ โดยในส่วนของออนไลน์ได้มีการนำสินค้าเข้าไปขายในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Line Tiktok Shoppe Lazada Jd central Tv direct จนทำให้ขณะนี้ร้าน “พรทิพย์ภูเก็ต” เป็นร้านขายของฝากที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นร้านเบอร์หนึ่งของภูเก็ตได้

นายวิวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของที่มาของพรทิพย์ภูเก็ต เกิดขึ้นเมื่อปี 2535 โดยเริ่มจากการเป็นตัวเทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “พรทิพย์ น่ำง่วน” เช่น หมูแผ่น หมูหยอง กุนเชียง เจ้าแรกและเจ้าเดียวของภาคใต้ โดยได้เช่าอาคารร้านเล็กๆ 2 คูหาในตัวเมืองจังหวัดภูเก็ต และปิ้งหมูแผ่นขายกันสดๆ บริเวณหน้าร้าน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากคนในท้องถิ่น


ในระหว่างที่ขายหมูแผ่น หมูหยอง กุนเชียง ก็หาข้อมูลและวิเคราะห์ธุรกิจจากประสบการณ์ที่มีไปด้วย และพบว่า ในขณะนั้นจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามากว่า 1.5 ล้านคนต่อปี เราต้องมีสินค้าที่เป็นของฝากจากภูเก็ตขายให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านั้น

โดยพฤติกรรมการซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่หลังจากได้ท่องเที่ยวธรรมขาติของภูเก็ตกันจนเต็มอิ่มแล้ว มักจะนิยมซื้อสินค้าของฝากพื้นเมืองไปเป็นของฝากของที่ระลึกให้ครอบครัว เพื่อนฝูง จึงเป็นที่มาว่าถ้าอย่างนั้นเราควรที่จะมีสินค้าที่เป็นของฝาก ของที่ระลึกเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวในขณะนั้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว


ทั้งนี้ ในปี 2545 เราจึงได้ตัดสินใจขยายธุรกิจ และเปิดร้านพรทิพย์ ซีสโตร์ โดยการไปรวบรวมอาหารทะเลแปรรูป ปรุงด้วยสมุนไพร เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพ และมีสินค้าอื่นๆ ให้เลือกกว่า 1,000 รายการ มาไว้ที่พรทิพย์ ซีสโตร์ บนพื้นที่กว่า 3 ไร่

จนกระทั่งในปี 2547 ได้เกิดวิกฤตคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเกาะภูเก็ต หลายบริษัทล้มละลายและปิดตัวลง ในตอนนั้น “พรทิพย์” มีพนักงาน 49 คน มาระดมสมองคิดกันว่า จะผ่านวิกฤตใหญ่นี้ไปได้อย่างไร ทุกคนได้ร่วมกันค้นคว้าฐานข้อมูลต่างๆ และนำมาวิเคราะห์ พบว่าฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ร้านส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 40% และเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% ดังนั้น ในเมื่อลูกค้าไม่สามารถเดินทางเข้ามาใช้บริการที่ร้านได้เราต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยนำสินค้าไปส่งให้ใกล้กับกลุ่มลูกค้าเดิมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


สำหรับที่แรกนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย คือ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ครั้งนั้นเหมือน พลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพราะยอดขายในโมเดิร์นเทรดผลตอบรับดีเกินคาด และปี 2548 ได้ปรับแผนให้ฝ่ายการตลาดวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ใหม่ จากเดิมที่สินค้าตราพรทิพย์เป็นเพียงสินค้าของฝากพื้นเมือง ได้ชูจุดเด่นที่มีอยู่ในตัววัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นให้กลายเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพและทำการตลาดผ่านช่องทางห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ เพื่อให้สามารถกระจายสินค้าไปทั่วประเทศให้ใกล้กลุ่มลูกค้าชาวไทยให้มากที่สุด

นายวิรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในปลายปี 2562 บริษัทได้รับผลกระทบ 100% จากโควิด ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาภูเก็ตเลย จึงได้ปรับกลยุทธ์แผนเชิงรุกด้าน E-Commerce หรือสื่อออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยเริ่มต้นจากการ Live ขายสินค้าทางเพจ จัดโปรโมชันดึงดูดใจลูกค้าอย่างต่อเนื่องซึ่งผลตอบรับดีมาก เพราะลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านทางมือถือที่บ้านได้เลยโดยไม่ต้องออกมาเสี่ยงกับโควิด ปัจจุบันช่องทางออนไลน์มีการขายผ่าน Website Facebook Line Shopee Lazada Moomall JD Central 24 Shopping Line Shopping(My Shop) Tiktok TV Direct


ล่าสุด ทางร้านพรทิพย์ของฝากได้มีแผนที่จะเข้าไปเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ผ่าน “เทรนด์อาหารยุคใหม่” ซึ่งมีสินค้ามากกว่า 500 รายการ เช่น 1.สินค้าที่ผลิตเอง ได้แก่ น้ำพริกกุ้งเสียบ กุ้งเสียบ ปลาข้าวสาร เม็ดมะม่วง ไตปลาแห้ง โอเอ๋วคัพ ชา-กาแฟ เครื่องดื่มแบรนด์ ORTA ทุกตัว 2.สินค้า Rebranding ได้แก่ ขนมพื้นเมืองทุกชนิด เช่น เต้าส้อ บีพ้าง มั่วหลาว และทอฟฟี่ผลไม้ต่างๆ รวมทั้งทุเรียนอบกรอบ 3.สินค้าแบ่งบรรจุ โดยการรับซื้อมาเป็นล็อตๆ แล้วแบ่งบรรจุภายใต้แบรนด์พรทิพย์ ได้แก่ ผลไม้แปรรูป มะม่วงอบแห้งสับปะรดอบแห้ง ลำไยอบแห้ง ลูกชิด และ กลุ่มอาหารทะเลแปรรูป เช่น หมึกหยอง หมึกย่างทั้งตัว ปลาก้างแก้ว


4.สินค้าที่ฝากขายจากกลุ่ม OTOP และซัปพลายเออร์ต่างๆ เช่น ปั้นขลิบ ทอฟฟี่โบราณ กล้วยตาก หมูแผ่น กุนเชียง รวมทั้งสินค้าที่ระลึกที่ไม่ใช่ของกิน เช่น พวงกุญแจ กรอบรูปช้าง


โดยสินค้าขายดีสำหรับลูกค้าคนไทยจะเป็นสินค้าที่ผลิตเอง ได้แก่ น้ำพริกกุ้งเสียบ ไตปลาแห้ง โอเอ๋วคัพ ชา-กาแฟ เครื่องดื่ม ORTA ส่วนลูกค้าต่างชาติจะเป็นกลุ่มมะม่วงอบแห้ง ทุเรียนอบกรอบ เม็ดมะม่วง ชา-กาแฟ ORTA ทุกตัว ในส่วนของรายได้ของร้านพรทิพย์ ในวันนี้มาจากการส่งออก 60% โมเดิร์นเทรด 20% Streamer Social Media 10% จากการขายหน้าร้านพรทิพย์ 5% จากช่องทางออนไลน์อื่นๆ 5%

ติดต่อ Facebook : Pornthip Phuket ของฝากภูเก็ต
โทรศัพท์ : 09-2276-0928




กำลังโหลดความคิดเห็น