ตรัง - จัดกิจกรรมประกวดทุเรียนพันธุ์พื้นบ้าน จ.ตรัง ประจำปี 2566 โดยมีทั้งการประกวดทุเรียน แข่งขันปอกทุเรียน แข่งขันกินทุเรียน คลินิกทุเรียน และตลาดเปิดท้ายจำหน่ายผลไม้ ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก
ที่องค์การบริหารส่วนตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง เป็นประธานจัดกิจกรรมการประกวดทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านจังหวัดตรัง ประจำปี 2566 ซึ่งปีนี้พบว่ามีเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านร่วมนำทุเรียนเข้าประกวดกว่า 50 ต้น จำนวน 100 ลูก โดยเป็นทุเรียนพื้นบ้านในพื้นที่ของจังหวัดตรังทั้งหมด สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีทั้งการประกวดทุเรียนพันธุ์พื้นบ้าน การแข่งขันปอกทุเรียนพื้นบ้าน การแข่งขันกินทุเรียนพื้นบ้าน คลินิกทุเรียน และตลาดเปิดท้ายจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาลจากแหล่งผลิตจังหวัดตรัง
การประกวดทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านจะมีหลักเกณฑ์ในการให้คะแนน คือ ดูลักษณะภายนอกขนาดผล 0.8-2.5 กิโลกรัม มีขนาดเดียวกันทั้ง 2 ผล มีพูอย่างน้อย 3 พู สด สะอาด ไม่มีตำหนิ และลักษณะภายใน เปลือกบาง เนื้อสมบูรณ์ไม่เละ รสชาติหวานกลมกล่อม เมล็ดน้อย เล็ก หรือลีบ ไม่เป็นโรค มีแบ่งเป็น 2 สีคือ สีเหลือง และสีครีม ส่วนรางวัลมี 6 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ รางวัลที่ 1, 2 และ 3 โดยจะได้รับอุปกรณ์ในการทำสวนทุเรียน พร้อมประกาศนียบัตร ขณะที่รางวัลชมเชย 2 รางวัล จะได้รับประกาศนียบัตร และยังมีรางวัลขวัญใจมวลชนด้วย
สำหรับอีกไฮไลต์คือ การแข่งขันปอกทุเรียนพันธุ์พื้นบ้าน โดยมีผู้เข้าแข่งขันจำนวน 10 คน กำหนดกฎกติกาคือ ปอกให้เร็ว ปอกให้สวย ถ้าเลอะถือว่าแพ้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักท่ามกลางเสียงของกองเชียร์ โดยการแข่งขันครั้งนี้ได้ผู้ชนะคือ นายเมธี รัตนบุรี ชาวตำบลช่อง และนางอุไร จงการ ชาวตำบลช่องเช่นกัน ได้ของรางวัลเป็นต้นพันธุ์ทุเรียนพื้นบ้าน และต้นพันธุ์มังคุด ไปปลูกอย่างละ 1 ต้น
ส่วนอีกหนึ่งรายการที่ฮือฮาไม่แพ้กันคือ การแข่งกินทุเรียนพื้นบ้าน มีผู้เข้าแข่งขันจำนวน 10 คน โดยผู้ที่แข่งขันกินทุเรียนต้องกินให้เกลี้ยงกินให้เร็ว ถ้าทำได้ตามกติกาจะได้รางวัล ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ ด.ญ.ณัฐรัตน์ หรือน้องกาแฟ ขาวหนูนา อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 2 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เป็นผู้ชนะการแข่งขัน โดยกินทุเรียนพื้นบ้านไปถึง 1 กิโลกรัม ชนะคว้ารางวัลไปครอง พร้อมด้วยทุเรียนบ้าน จำนวน 2 ลูก รวมทั้งต้นพันธุ์ทุเรียนพื้นบ้าน และต้นพันธุ์มังคุด กลับบ้านไปอย่างละ 1 ต้น
กิจกรรมดังกล่าวที่จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์พันธุกรรมพืช เฟ้นหาสายพันธุ์ที่ดี และปีนี้เป็นปีที่มีสภาพอากาศที่เอื้อ ทำให้มีทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านออกมาเยอะ และต้องการที่จะนำของดีที่อยู่ในพื้นที่มารวมตัวกัน เพราะปัจจุบันโดยเฉพาะทุเรียนสายพันธุ์พื้นบ้านค่อนข้างหายากแล้ว เลยต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้
หลังจากนี้ จะได้ขยายพันธุ์เพื่อทำการค้าให้แก่เกษตรกรต่อไป และคาดว่าหลังจากนี้หากได้สายพันธุ์ที่ดีแล้วจะได้มีการตั้งชื่อให้ทุเรียนอีกด้วย ในส่วนของทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านในขณะนี้ ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ทำให้ชาวเกษตรกรผู้ปลูกมีรายได้ที่ดีขึ้นมาด้วย