เดินมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ Specialised Expo 2028 ในปี 2571 ของประเทศไทย โดยใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงาน เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงวันชี้ชะตา 21 มิ.ย.นี้ จะเป็นวันลงคะแนนโหวตของประเทศสมาชิกว่าจะเลือกเมืองใดเป็นสถานที่จัดงาน ทั้ง 5 เมืองประกอบด้วย เมืองมินิโซตา สหรัฐอเมริกา เมืองมะลากา ประเทศสเปน เมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย เมืองเซนคารอส เดอ บาริโลเช่ ประเทศอาร์เจนตินา และภูเก็ต ประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยนั้น ได้เสนอจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่เดินทางเข้ามาปีละ 14 ล้านคน เป็นสถานที่จัดงาน Specialised Expo 2028 ภายใต้ชื่องาน “EXPO 2028 Phuket-Thailand” ในที่ราชพัสดุ 141 ไร่ ตั้งอยู่หัวเกาะ บ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะดำเนินโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก ที่ทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ตผลักดันของบประมาณมาดำเนินโครงการ สอดรับกับธีมการจัดงานที่ประเทศไทยส่งเข้าแข่งขัน คือ “Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity ชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่ง” เพื่อให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของประเทศไทยสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคตที่ยั่งยืน เน้นการใช้ชีวิตที่สมดุล สร้างสุขภาพที่ดี
การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 นั้น เกิดจากจังหวัดภูเก็ต ทั้งภาครัฐ และเอกชนต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มสาขาเศรษฐกิจให้ภูเก็ตที่นอกเหนือจากการท่องเที่ยวทางทะเล จึงต้องการผลักดันให้เกิดงานใหญ่ระดับโลกในพื้นที่ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวของภูเก็ต ประกอบกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือทีเส็บ ได้กำหนดให้ภูเก็ตเป็นเมืองไมซ์ซิตี เมื่อองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions - BIE) กำลังเปิดรับสมัครเมืองที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ทางทีเส็บจึงได้เสนอให้ภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงาน เพื่อดึงงานใหญ่ระดับโลกเข้ามาในพื้นที่
โดยหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือเสนอตัวจัดงานแล้วนั้น ทางทีเส็บและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงตัวแทนจากจังหวัดภูเก็ตได้มีการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ต่อคณะกรรมการ BIE ไปแล้ว 2 ครั้งที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และทางคณะกรรมการ BIE จาก 10 ประเทศได้เดินทางมาประเทศไทย พบปะกับนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อยืนยันการสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว และลงพื้นที่ภูเก็ตเพื่อประเมินความพร้อมของภูเก็ตในทุกๆ ด้าน เมื่อเดือน ก.ค.2565 ที่ผ่านมา
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ของประเทศไทย โดยใช้ภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงานนั้น ขณะนี้ได้เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว นับจากนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะรู้ผลว่า ภูเก็ตจะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานหรือไม่ โดยในวันที่ 21 มิ.ย.2566 นี้ ทางคณะกรรมการจะตัดสินแล้ว ซึ่งก่อนที่จะลงคะแนนโหวตเลือกนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการ BIE และให้แต่ละเมืองได้นำเสนอความพร้อมเป็นครั้งสุดท้าย
โดยประเทศที่มีสิทธิโหวตลงคะแนนในครั้งนี้มีทั้งหมด 124 ประเทศ จากประเทศสมาชิก 171 ประเทศ ซึ่งการโหวตนั้น หากโหวตครั้งแรกเมืองใดได้คะแนน 2 ใน 3 หรือประมาณ 83-84 คะแนน ก็จะชนะ ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน แต่ในประวัติศาสตร์ของการโหวตลงคะแนนยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ประเทศที่ได้คะแนนจากการโหวตน้อยที่สุดจะถูกตัดออกไปในแต่ละรอบ จนเหลือประเทศที่ได้คะแนนสูงสุด ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบผลในช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น.ตามเวลาประเทศไทย
“การประมูลงานนี้ ทีเส็บ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันอย่างเข้มแข็งเพื่อให้ภูเก็ตได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ทางกระทรวงการต่างประเทศได้พูดคุยกับประเทศต่างๆ ในการนำเสนอข้อมูลเพื่อให้ประเทศสมาชิก BIE ยกมือให้ภูเก็ต ทางทีเส็บเองได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการในเรื่องนี้ และในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ จะมีการจัดงานเพื่อพูดคุยกับประเทศต่างๆ ที่จะยกมือให้ภูเก็ตและประเทศไทยเป็นครั้งสุดท้าย” ผอ.ทีเส็บ กล่าวและว่า
จึงขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันเชียร์และส่งแรงใจให้ภูเก็ตได้เป็นเจ้าภาพ เพราะงานนี้ประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่ที่ภูเก็ตเพียงจังหวัดเดียว แต่จะเกิดประโยชน์โดยรวมกับประเทศไทย เพราะถ้าหากเราได้จัดงาน ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในเซาท์อีสต์เอเชีย และเซาท์เอเชีย ที่ได้จัดงาน Specialised Expo เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยพร้อมในการจัดงานอีเวนต์ใหญ่ระดับโลก เป็นศูนย์กลางของการจัดงานอีเวนต์ของโลก
ด้าน นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ (ทีเส็บ) กล่าวว่า นับจากวันนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะโหวตเลือกเมืองที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น เราได้มีการเตรียมความพร้อมในการประมูลงานครั้งนี้ โดยทางทีเส็บ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จังหวัดภูเก็ต ได้เดินสายหาเสียงกับประเทศสมาชิกอย่างเข้มข้นในโค้งสุดท้าย ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ไปเคาะประตูทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งประเทศเหล่านี้มีสถานทูตของประเทศต่างๆ ที่ไม่มีในประเทศไทย เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ท่านทูตของประเทศต่างๆ ได้รับทราบว่าทำไมภูเก็ตต้องได้รับเลือกในการจัดงานดังกล่าว ส่วนในประเทศไทยนั้น ได้มีการพูดคุยกับทางท่านทูตของประเทศต่างๆ ไปหลายรอบแล้ว และในส่วนของทีเส็บเองได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปกรุงปารีสเพื่อไปพูดคุยกับตัวต่อตัวกับประเทศต่างๆ ที่มีสิทธิลงคะแนนเสียง 124 ประเทศทั่วโลก
“หลังจากที่ได้พูดคุยกับประเทศต่างๆ และการประเมินในเบื้องต้นเรามั่นใจว่าประเทศนั้นเชียร์ภูเก็ต แต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะประเทศที่เสนอตัวก็ต้องการได้งานนี้เหมือนกัน มีการหาเสียงกับประเทศต่างๆ เหมือนกับเรา ซึ่งครั้งนี้ถือว่ามีการแข่งขันกันรุนแรงเหมือนกัน” ผอ.ทีเส็บ ภาคใต้ กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จะนำทีมคนภูเก็ตไปเสนอความพร้อม ความสวยงาม ความมั่นใจของคนภูเก็ตว่าทำไมเราต้องเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ประเทศสมาชิกทั้ง 124 ประเทศจะลงคะแนนโหวต
ขณะที่ นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก ว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้รับการจัดสรรงบกลาง ปี 2566 จำนวน 72 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ หลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติงบประมาณ 1,400 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี โดยงบ 72 ล้านบาทนั้น ดำเนินการในส่วนของการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการ 27 ล้านบาท ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) 2.9 ล้านบาท และทำในส่วนของถนนและรั้วกั้นพื้นที่ 41 ล้านบาท โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 หลังจากนั้นจะได้ขอจัดสรรงบประมาณมาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2570 เพื่อรองรับการจัดงาน Specialised Expo 2028
ทำไมภูเก็ตต้องได้งานนี้ หากประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ทีเส็บคาดว่าจะส่งผลต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจของภูเก็ตและจังหวัดในฝั่งอันดามัน โดยมีการประมาณการว่าในช่วงระยะเวลาการจัดงานเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-17 มิ.ย.2571 จะสามารถดึงคนให้เข้ามาภูเก็ตได้ถึง 4.92 ล้านคน คนเข้าชมงาน 7 ล้านคนครั้ง มีการจ้างงานเกิดขึ้น 113,231 คน และมีเงินสะพัดในพื้นที่สูงถึง 49,000 ล้านบาท จากการลงทุนการจัดงานที่ ครม.ได้อนุมัติงบประมาณ 4,180 ล้านบาท
ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เกิดหลังจากการจัดงานจะตามมาในหลายเรื่อง ภูเก็ตจะได้เป็นที่รู้จักของคนจากทั่วโลกในการเป็นจุดหมายปลายทางของเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เมืองเวลเนส เป็นเมืองที่คนจากทั่วโลกจะเดินทางมาท่องเที่ยวและดูแลสุขภาพ รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่เกิดจากการจัดงาน อย่างศูนย์ประชุมจุคนได้ 5,000 ที่นั่ง และสถานที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์การดูแลสุขภาพ ศูนย์อภิบาลดูแลผู้สูงอายุ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และเมดิคอลพลาซ่า ตามเป้าหมายที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตวางไว้ เพราะโครงการต่างๆ ภายใต้โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2570 ให้ทันรองรับการจัดงานที่จะเกิดขึ้นในปี 2571 ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติงบประมาณในการดำเนินการโครงการนี้แล้ว 1,400 ล้านบาท
และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น การได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 จะเป็นตัวเร่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ของเกาะภูเก็ต ในการรองรับการจัดงาน โดยเฉพาะโครงข่ายการคมนาคมทางบก ที่จะต้องเร่งก่อสร้างให้เสร็จทันปี 2571 ไม่ว่าจะเป็นโครงการระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า จากสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง และส่วนต่อขยายมาบ้านท่าฉัตรไชย โครงการถนนมอเตอร์เวย์ จากเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ เชื่อมต่อกับโครงการอุโมงค์ป่าตอง ที่ทางการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กำลังดำเนินการออกแบบและหาผู้ลงทุนอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านอื่นๆ
มาลุ้น และส่งแรงเชียร์ แรงใจให้ประเทศต่างๆ โหวตลงคะแนนให้ภูเก็ต เป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 Phuket-Thailand ในธีม Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity ชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่ง
