พัทลุง - หนุ่มหัวร้อนเข้าธนาคารเพื่อฝากเงินบนห้างชื่อดัง จ.พัทลุง ก่อนผลักแม่บ้านล้ม พร้อมถ่ายภาพและข่มขู่เจ้าหน้าที่ธนาคารและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อ้างเจ้าหน้าที่ไม่ได้ฝากเงินให้
วันนี้ (1 มิ.ย.) พ.ต.ท.จีรศักดิ์ ฉวีนิล รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองพัทลุง ร.ต.อ.บัญชา แก้วมุสิก รอง สวป.สภ.เมืองพัทลุง นายตำรวจที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหนุ่มหัวร้อนเข้าไปใช้บริการฝากเงินธนาคารแห่งหนึ่ง บนห้างเทสโก้โลตัส ริมถนนเอเชีย ขาขึ้น ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง และพูดจาข่มขู่เจ้าหน้าที่ธนาคารและข่มขู่จะเอาชีวิตผู้มาใช้บริการ หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีปากเสียงกันจากการที่หนุ่มหัวร้อนรายนี้ไปถ่ายภาพผู้มาใช้บริการ หลังจากนั้นได้ออกจากห้างหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ตำรวจพอจะทราบตัวหนุ่มหัวร้อนรายนี้แล้ว พร้อมทั้งวางกำลังตำรวจ ณ บริเวณหน้าธนาคารดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุหนุ่มหัวร้อนคนดังกล่าวได้ขึ้นไปบนห้างเทสโก้โลตัส เพื่อขึ้นไปฝากเงินกับธนาคารแห่งหนึ่งบนห้างดังกล่าว เมื่อเข้าไปในธนาคารได้ผลักร่างแม่บ้านของธนาคารที่คอยให้บริการลูกค้าในการกดบัตรคิวให้ออกไปจากตู้บริการ จากนั้นได้แย่งคิวลูกค้าเข้าฝากเงิน ในเบื้องต้นบอกว่าจะฝากเงิน จำนวน 5,000 บาท แต่ตอนหลังฝากเงินเพียง 2,000 บาท โดยหนุ่มหัวร้อนคนดังกล่าวมิได้นำสมุดฝากเงินของธนาคารมาด้วย
หลังจากที่ฝากเงินแล้วหนุ่มหัวร้อนได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยอ้างว่าทาง จนท.ไม่ได้ฝากเงินให้ตนเนื่องจากไม่มีรายการฝากเงินในโทรศัพท์ แต่ จนท.ธนาคารยืนยันว่าได้จัดทำรายการฝากเงินให้เรียบร้อยแล้ว จนทำให้หนุ่มหัวร้อนคนดังกล่าวเกิดความโมโหและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ จนท.ธนาคารทุกคน รวมทั้งถ่ายภาพบรรดาลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในธนาคารดังกล่าว
ต่อมา มีลูกค้ารายหนึ่งได้ห้ามมิให้หนุ่มหัวร้อนคนนี้ถ่ายภาพ จึงถูกหนุ่มหัวร้อนเข้ามาข่มขู่และอาฆาตโดยพูดว่า “การที่มึงมิให้กูถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานนั้น มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร หากมึงขัดขืนกูจะฆ่าให้ตาย จำไว้เลย” จากนั้นหนุ่มหัวร้อนรายนี้ก็เดินออกจากธนาคาร และเดินหายตัวไปในเวลาต่อมา ทางด้านตำรวจได้ออกติดตามหาตัวไม่พบ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุพบว่าชายคนดังกล่าวมีอายุประมาณ 40-45 ปี สวมเสือแขนสั้นสีชมพู กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สะพายกระเป๋าสีดำ และเป็นคนศีรษะโล้น
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจกำลังขยายผลภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุว่า หนุ่มหัวร้อนคนดังกล่าวจะเป็นคนเดียวกับชายผู้ก่อเหตุที่ได้ขับรถยนต์เก๋งส่วนตัวไปจอดบริเวณสามแยกห้วยท่อม บนถนนเอเชียขาล่องหรือไม่ โดยสาเหตุมาจากรถเก๋งหมดน้ำมันแต่เจ้าตัวไม่ยอมลงจากรถเก๋ง จนทางตำรวจต้องใช้รถยกนำรถเก๋งคันดังกล่าวไปไว้ที่ สภ.ควนขนุน ซึ่งกว่าที่ทาง ตร.จะเจรจาให้ชายคนดังกล่าวออกมาจากรถเก๋งได้ต้องใช้เวลานานมากถึง 10 ชม.
ในส่วนของเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้ที่เกิดขึ้นนั้น หากทาง จนท.ธนาคารและลูกค้าจะเอาผิดกับหนุ่มหัวร้อนคนดังกล่าวสามารถที่จะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุงได้