กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง รุกยื่นฟ้องศาลปกครองภูเก็ต ฟ้องผู้ว่าฯ-เจ้าท่าภูเก็ต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง รุกยื่นฟ้องศาลปกครองภูเก็ต ฟ้องผู้ว่าฯ-เจ้าท่าภูเก็ต ขอให้เพิกถอนคำสั่งของหน่วยงานราชการ รวมถึงมติที่ประชุม ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีร่องน้ำหน้าโครงการเอกชน


เดินหน้าต่อ กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง รุกยื่นศาลปกครอง ฟ้องผู้ว่าฯ-ผอ.เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ขอให้เพิกถอนคำสั่งของหน่วยงานราชการ รวมถึงมติที่ประชุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีร่องน้ำทิพย์ บริเวณอ่าวกุ้ง (ท่าเล)

โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้ส่งตัวแทนพร้อมด้วยทนายความ จากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน รวม 15 คน เดินทางไปศาลปกครองภูเก็ต เพื่อยื่นคำฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของหน่วยงานราชการ รวมถึงมติที่ประชุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีที่ภาคเอกชนจะดำเนินโครงการท่าเทียบเรือสำราญ และกีฬาอ่าวกุ้ง มารีน่าในพื้นที่บริเวณอ่าวกุ้ง (ท่าเล)

สำหรับการยื่นฟ้องในครั้งนี้ ทางตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ได้ยื่นฟ้องดังนี้
1.คณะกรรมการเพื่อศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการขุดลอกร่องน้ำสาธารณประโยชน์อ่าวกุ้ง ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการขุดลอกร่องน้ำสาธารณประโยชน์อ่าวกุ้ง (ท่าเล)

2.ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานราชการ สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ในการบริหารราชการตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ

และ 3.ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการภายใต้สังกัดกรมเจ้าท่า มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย กฎหมายว่าด้วยเรือไทย


จากการสอบถามนายพิเชษฐ์ ปานดำ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง กล่าวว่า การยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครองในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมา ทางกลุ่มอนุรักษ์ได้ยื่นเรื่องไปยังจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้วเพื่อให้พิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อให้แก้ไขและยกเลิกและมติการประชุมเกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องร่องน้ำ ซึ่งอยู่หน้าโครงการของเอกชนที่จะดำเนินโครงการมารีน่า ซึ่งทางชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีร่องน้ำอยู่จริง แต่ไม่มีการตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งๆ ที่มีการส่งเอกสารต่างๆไปหมดแล้ว จึงนำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นต่อศาลปกครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลได้รับเรื่องไว้ เป็นแผนกคดีสิ่งแวดล้อม คดีหมายเลขดำที่ ส. 1/2566 เพื่อให้ศาลพิจารณาต่อไป

นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า “ในพื้นที่บริเวณอ่าวกุ้ง (ท่าเล) ได้มีเอกชนจะดำเนินโครงการท่าเทียบเรือสำราญ และกีฬา และมีการอ้างถึงร่องน้ำในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปรากฏเกี่ยวกับร่องน้ำบริเวณหน้าพื้นที่อ่าวกุ้ง (ท่าเล) แต่อย่างใด ทางกลุ่มจึงได้คัดค้านว่าไม่เคยมีร่องน้ำในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเรื่องเหล่านี้ได้นำเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด และโดยข้อเท็จจริง ในเชิงประจักษ์ชุมชนของเราไม่เคยเจอร่องน้ำตรงนี้มาก่อน และกิจกรรมที่เราทำตรงนี้เป็นกิจกรรมฟื้นฟูเรื่องป่าชายเลน และการดำรงชีพ เป็นพื้นที่จับสัตว์น้ำของพวกเรา ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่จะมีร่องน้ำ”