xs
xsm
sm
md
lg

“นิพนธ์” อ้างข้อเขียนอดีตทูตไทย “ก้าวไกล” นั่งรัฐบาลเป็นจุดเริ่มต้นล่าอาณานิคมจากอเมริกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภาคใต้ - รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เขียนข้อความในไลน์กลุ่ม ยกบทความอ้างมาจากอดีตเอกอัครราชทูตไทย ชี้หลัง “ก้าวไกล” เป็นรัฐบาลจะเกิดก้าวแรกการล่าอาณานิคมจากสหรัฐฯ ที่หวังเข้ามาตั้งฐานทัพในไทยเพื่องัดอำนาจจากจีน

วันนี้ (24 พ.ค.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เขียนข้อความในกลุ่มไลน์แห่งหนึ่งที่มีสมาชิกอยู่เกือบ 100 คน โดยยกบทความจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj หรือนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ว่า ลองอ่านข้อเขียนของคนระดับเอกอัครราชทูตไทย ซึ่งท่านเห็นเหตุที่เกิดขึ้นผ่านประสบการณ์ต่างๆ มาทั่วโลก

“เมื่อคนไทยต้องการพรรคก้าวไกลขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องยินดีด้วย และปล่อยให้ระบบมันเดินไป แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแบบค่อยๆ ซึมเข้ามาคือ การล่าอาณานิคมแบบใหม่ของสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตก วันนี้คือจุดเริ่มต้นเท่านั้นของการล่มสลายของประเทศไทย ก้าวไกลได้อะไร ได้เงินและอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ถูกหรือผิด ชั่วหรือดี”

บทความดังกล่าวระบุว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหนึ่งที่ได้ Fund จากประเทศอเมริกา ผ่านองค์กร มูลนิธิลับๆ หลายแห่ง ในการขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อเปิดช่องให้อเมริกาแทรกแซงทางการเมืองไทยได้ สังเกตได้จากกลุ่ม NGO ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนการล้มล้างสถาบัน กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ รวมถึงการนำทูตสหรัฐฯ และประเทศตะวันตกเข้ามาสังเกตการณ์การประชุม สัมมนา หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ มันคือการล่าอาณานิคมแบบใหม่ที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยคำนึงถึง

“อเมริกาต้องการทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของประเทศ และการนำประเทศไทยตั้งฐานทัพเพื่องัดอำนาจจากประเทศจีน ซึ่งอเมริกาพยายามจะเข้ามาตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วแต่ทางทหารไทยไม่ยอม ได้แค่เข้ามาฝึกซ้อมรบ”

บทความระบุว่า อเมริกาต้องการให้เกิดสงครามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อที่จะได้ขายอาวุธและคานอำนาจกับจีน ซึ่งได้เริ่มทำไปแล้วในฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้มีโอกาสเกิดสงครามกับจีนและรัสเซียตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตหากยังดำเนินแบบนี้ต่อไป คงได้เห็นสงครามไทย-จีน! ไทยก็เช่นเดียวกัน อยู่ในชัยภูมิที่ดี มีทางออกทะเล มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ต่างชาติยกย่องว่าเป็นครัวของโลก จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของอเมริกาและชาติตะวันตก

“แต่สิ่งที่ยากที่สุดในการเข้ามาแทรกซึมประเทศไทยมีความมั่นคงทางวิถีชีวิต และความภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คานอำนาจและเป็นเสาหลักของประเทศ จึงเป็นงานยากของอเมริกาที่ต้องลดบทบาทของสถาบันหลักเหล่านี้ให้อ่อนแอที่สุด จนถึงเป็นแค่สัญลักษณ์ เพื่อที่จะเข้ามายึดครองได้โดยง่าย (ไม่แปลกอะไรที่ก้าวไกล ขอยกเลิก ม.112 มาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย บอกว่าเสนอเป็นญัตติมาอภิปรายไม่ได้ เพราะญัตตินี้ ผิด รธน.)”

“สิ่งที่ชาติตะวันตกและอเมริกาได้ทำมาอย่างต่อเนื่องมากว่า 60 ปี คือการสร้าง soft power แบบซึมเข้ามาในรูปแบบการศึกษาที่ทันสมัย ภาพยนตร์ การให้ทุนนักเรียนเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมการล้างสมองให้คนของเราเสพติดคำว่าประชาธิปไตย ความทันสมัย ศิวิไลซ์ของเขา ของประเทศเสรีนิยม ทุนนิยม และผลักดันให้คนกลุ่มนี้กลับเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศพร้อมจะเปลี่ยนประเทศโดยไม่สนใจรากเหง้าเดิม คนเหล่านี้จะมีแนวความคิดแบบชาติตะวันตกเต็มตัว พร้อมที่จะทำตามและอ้าแขนรับอำนาจตะวันตก โดยถึงขั้นมองว่าถ้าต้องเป็นประเทศอาณานิคมก็ไม่แปลกอะไร เพราะคงจะได้รับความรู้ความเจริญมาในฐานะนักเรียนนอก"

“วันนี้พวกเขาทำสำเร็จแล้ว ก้าวแรกของการล่าอาณานิคมใหม่ เริ่มขึ้นโดยการต้องเริ่มกระบวนการลดกำลังทหารและลดบทบาทสถาบันกษัตริย์ คนหนุ่มสาวของประเทศมีแนวคิดแบบตะวันตกมากกว่าครึ่งประเทศถูกเสพติดด้วยข้อมูลบิดเบือนมาเป็นเวลานาน เริ่มแสดงตัวตนแบบคนกระหายความสำเร็จ กระหายความเจริญ และศิวิไลซ์แบบชาติตะวันตก ดูได้จากการแสดงออกใน social media ที่พยายามแสดงถึงความหรูหรา ฟุ่มเฟือย ชีวิตที่ดี กินหรู อยู่สบาย ใช้ของ brand ผู้คนเหล่านี้มีความรู้ มีฐานะ การงานที่ดี และคิดว่ากูโตมาได้ หาเงินได้ด้วยความสามารถตัวเอง พ่อแม่ตัวเอง ไม่เกี่ยวกับสถาบัน ส่วนคนจนก็จะโทษทุกสิ่งอย่างรอบตัวที่ไม่ใช่ตัวเอง ความคิดแบบนี้กำลังจะพังประเทศตัวเอง เป็นความคิดแบบเห็นแก่ตัวแบบสุดขั้ว และการกอบโกยทรัพยากรเต็มที่ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนรุ่นเก่าๆ อีกหลายคน”

ข้อความในกลุ่มไลน์ที่นายนิพนธ์ โพสต์ยังระบุว่าด้วยว่า แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต้องการให้เป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เกิดไป อาจจะยังไม่ได้เกิดในปีสองปีนี้ อาจจะค่อยๆซึมเข้ามาเป็น 5-10 ปี ก็คงต้องคอยดูต่อไป ขอให้ประเทศไทยพ้นผองภัย ขอให้ฝ่ายค้านที่ยังเป็นคนเจนคุณภาพ รักบ้านเกิดเมืองนอนตนเอง ต้องทัดทาน ไม่ให้คนชั่วคว่ำฟ้าพลิกดิน คบต่างชาติให้เข้ามากลืนชาติ นำพาสู่สงครามได้สำเร็จ

บทความนี้ยังเขียนว่า ตอนนี้เตรียมย้อนอดีตไปสมัยช่วงสงครามเวียดนามที่ไทยเรายอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยเพื่อประจันหน้ากับจีน ก่อนหน้านี้ US ทำสำเร็จแล้วที่ ฟิลิปปินส์ ได้ลูกชายของอดีต ปธน.มาร์คอส ขึ้นมา และทันทีก็หันไปซบอเมริกายอมให้ใช้ฐานทัพเพื่อเผชิญหน้ากับจีน และก็ไม่ผิดคาดแต่อย่างใดที่การเลือกตั้งในไทยได้พรรคที่มีแนวโน้มโปร US ขึ้นมาเพราะเขาได้วางแผนการในการใช้สื่อเกลี้ยกล่อม และ convince คนรุ่นใหม่จนประสบผลสำเร็จด้วย keywords คำว่า “ประชาธิปไตย” “ยกเลิก ม.112” “ความเหลื่อมล้ำในสังคม นายทุนผูกขาด” มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รัฐบาลฝ่ายขวาที่อนุรักษนิยมทำอะไรไม่ได้เลย เพราะยุทธศาสตร์การเมืองยุคใหม่คือ ใครครองหรือครอบงำสื่อโซเชียลได้ผู้นั้นครองโลก

“ก็ไม่ต่างจากสมัยยุคล่าอาณานิคมที่มีคำพูดว่า ใครครองน่านน้ำคนนั้นครองโลก หรือที่เรียกกันว่า “การทูตเรือปืน” (Gunship Diplomacy) สมัยนั้นเราต้องเสียดินแดนไปเพราะยุทธศาสตร์แบบนี้ พอยุคสงครามเย็นใครครองอวกาศผู้นั้นครองโลก พอมายุคนี้ใครครอบครองสื่อโซเชียล หรือสื่อออนไลน์ได้ ผู้นั้นครอบงำโลกได้เช่นกัน”

“ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแบบนี้เลย พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลุ่มทุนสามานย์ต่างชาติที่เป็นนอมินีให้ US นั้นมีหุ้นใหญ่อยู่ใน FB Twitter และเดี๋ยวนี้ลงไปถึง Netflix/HBO เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังทุกเรื่องหากมีพากย์ไทยจะถูกสอดแทรกเรื่องการเมืองลงไปเท่าที่เขาจะสอดแทรกได้เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกับคนรุ่นใหม่ให้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในไทยให้ได้ ผมอยู่ที่ Film Board ได้รับรู้อะไรเยอะมากครับว่าพวกเขาทำกันยังไง”

“ไม่เว้นแม้แต่ในบริษัทผลิตยาและวัคซีนมหาเทพ ก็มีกลุ่มทุนสามานย์ นอมินีของ US ถือหุ้นอยู่ คงจำกันได้ที่วัคซีนมหาเทพที่ถูกปั่นในหมู่ศิลปิน ดารา นักร้อง นางงาม เซเลบ แล้วก็ด่าจีนเรื่องวัคซีนน้ำเกลือ วัคซีนเซินเจิ้น ไม่เว้นแม้แต่การดูถูกวัคซีน AZ ที่ไทยเราผลิตได้ในประเทศก็กลายเป็นประเด็นกระทบถึงสถาบัน นั่นคือผลงานของการปั่นจากผู้ที่ครอบงำสื่อได้ เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล่นๆ เพราะคงวางแผนลงไปทุกอณูของสื่อ ไม่เว้นแม้แต่การ์ตูนอานิเมะ เพจหมาแมว สัตว์เลี้ยง กีฬาสีเด็กประถม/มัธยม ยังมีเดินขบวนล้อการเมืองเลย ยังจำภาพเด็กมัธยมโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรฯ ถือป้ายในงานกีฬาสีเขียนชื่อป้ายประเทศว่า Repuplic of Thailand”

“พวกผมเคยผ่านและเคยได้เห็นสภาพตอนที่เราต้องยอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยถึง 7 แห่งในช่วงสงครามเวียดนามมาแล้ว แต่เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยรู้ ไม่เคยศึกษา อิทธิพลของสหรัฐฯ ที่ทิ้งไว้คือวัฒนธรรมแบบแยงกี้ บาร์เบียร์ เมียเช่า อะโกโก้ โชว์ลามก นั่นคือจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของไทย จากเดิมสังคมวัฒนธรรมไทยที่ผู้หญิงขี้อายรักศักดิ์ศรี ก็กลายเป็นผู้หญิงไทยโดนหมิ่นเกียรติเยอะมากเวลาไปต่างประเทศ”

“เราอาจกลายเป็นสมรภูมิแห่งความขัดแย้งในภูมิภาค เราอาจกลายเป็นแบบยูโกสลาเวีย หรือเนปาล ยูเครน โมเดลต่อไปนี้คงคาดเดาลำบาก เพราะทุกอย่างเริ่มเข้าเค้าตามแนวทาง New World Order ของ US ไปทุกที พวกผมคงอยู่กันอีกไม่นาน ถึงตอนนั้นเป็นความรับผิดชอบของคนที่ออกคะแนนเสียงในวันนี้ว่าคุณต้องเลือกหนทางเดินให้ประเทศไทยให้ได้ อย่าให้อายคนรุ่นเก่าที่เขายอมเสียสละปกป้องประเทศไทยมาได้นะครับ”




กำลังโหลดความคิดเห็น