ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การฯ ภูเก็ต เผยความคืบหน้าเหตุเรือสปีดโบ๊ตชนตอม่อเสาไฟนำร่อง หน้าอ่าวฉลองภูเก็ต สอบปากคำพยานนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 19 ปาก ให้การตรงกันว่า กัปตันขับเรือด้วยความเร็ว คึกคะนอง เข้าข่ายกระทำการด้วยความประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
จากกรณีที่เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ต ธนาธิป มารีน 555 ชนตอม่อเสาส่งสัญญาณไฟนำร่องที่บริเวณอ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้น ทางเจ้าท่าภูเก็ตได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพเรือ พบว่า อยู่ในสภาพปกติ และในวันเกิดเหตุสภาพอากาศปลอดโปร่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้สอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ และตรวจหาสารเสพติดกัปตันเรือซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
โดยขณะนี้มีผู้ที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 16 ราย โดยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 11 ราย โรงพยาบาลดีบุก 1 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพ 1 ราย โรงพยาบาลมิชชั่น 3 ราย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ได้มีการตรวจสอบและสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องแล้ว 19 ปาก รวมทั้งได้มีการประสานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งการตรวจเรือ การร่วมกับพิสูจน์หลักฐานตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชน การตรวจสารเสพติดและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ควบคุมเรือ โดยรายละเอียดอยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ
แต่เบื้องต้นพยานทุกปากให้การสอดคล้องกันว่า ผู้ควบคุมเรือมีการขับด้วยความเร็ว คึกคะนอง ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จึงเป็นเหตุให้เรือเฉี่ยวชนตอม่อเสาสัญญาณไฟเดินเรือ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 300 และ 390 ในข้อหากระทำการด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท เป็นอำนาจของศาลแขวงภูเก็ต
ส่วนของผลการตรวจหาสารเสพติดและระดับแอลกอฮอลล์ของกัปตันเรือนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจากโรงพยาบาลเพื่อนำมาประกอบในสำนวน หากพบมีความผิดจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากัปตันเรือแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และขอข้อมูลผู้บาดเจ็บจากโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน กัปตันเรือก็ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล