ตรัง - หอการค้าไทย จัดเวทีสัญจรในวาระครบรอบ 90 ปี เผยที่ผ่านมา งบประมาณที่เป็นเมกะโปรเจกต์ไม่ลงมาทางภาคใต้เลย ทำให้การพัฒนาสะดุด พร้อมคาดหวังให้รัฐบาลชุดใหม่ทำตามที่หาเสียงไว้อย่างเต็มที่
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรัง หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดเวทีสัญจร และการอบรม YEC Connect สัญจร ประจำปี 2566 เนื่องด้วยวาระที่หอการค้าไทยได้ครบรอบ 90 ปี ในปี 2566 ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรรมการหอการค้าไทยภาคใต้ รวมทั้งประธานและเลขาธิการหอการค้า 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC และสมาชิกหอการค้าภาคใต้กว่า 400 คน โดยมี นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันเข้าร่วม
ซึ่งในส่วนของจังหวัดตรัง นายสุธรรม เศรษฐพิศาล ประธานหอการค้าจังหวัดตรังได้เสนอขอสนับสนุนโครงการจากหอการค้าไทย คือโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงคมนาคมระหว่างอำเภอกันตัง และอำเภอหาดสำราญ ระยะทาง 70 กิโลเมตร เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว รวมทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงตรังกับสตูล ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของฝั่งอันดามันด้วย โดยโครงการนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท และเมื่อปี 2555 หอการค้าจังหวัดตรัง เคยนำโครงการเสนอเข้า กรอ. เพื่อผลักดันให้เกิด แต่โดนคัดค้านจากกลุ่มอนุรักษ์
ด้านนายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้หอการค้าไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมางบประมาณที่เป็นเมกะโปรเจกต์ไม่ได้ลงมาทางภาคใต้เลย ส่วนเที่ยวนี้มีนักการเมืองลงมาหาเสียง มานำเสนอนโยบาย ซึ่งบางพรรคที่คนในพื้นที่ถูกใจเขาก็เลือก ดังนั้น สิ่งที่คาดหวังคือ เมื่อเขาขึ้นเป็นรัฐบาลแล้ว เขาต้องทำตามที่หาเสียงไว้ แต่ตนมั่นใจว่ารัฐบาลชุดใหม่จะฟังเสียงประชาชนมากขึ้น แต่ที่ผ่านมา ยังมีการรับฟังหรือสนับสนุนงบประมาณมาทางฝั่งเอกชนไม่เต็มที่นัก แต่วันนี้ตนเชื่อว่าในการผลักดันแผนงานหรือโครงการน่าจะได้ตามเป้า หรือตามที่กลุ่มเอกชนของบประมาณไป เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจทางภาคใต้โตขึ้น
รองประธานหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย มองว่า รัฐบาลชุดใหม่ต้องอยู่ในเสียงข้างมากอยู่แล้ว หรือเกิน 250 ขึ้นไป แต่จะเกินไปเท่าไหร่นั้น ถ้าเกินไปไม่มากก็อ่อนแอ ทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเกินมากก็แข็งแรงเกินไป จะไม่ฟังประชาชน เพราะฉะนั้นตัวเลขที่น่าจะเหมาะสมควรอยู่ที่ระดับ 300 ระดับกลางๆ เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่มีเสียงมั่นคงในระดับที่พอสมควร สามารถผ่านงบประมาณได้ หรือทำตามนโยบายได้ ส่วนฝ่ายค้านควรอยู่ระดับเกือบๆ 200 เพื่อให้มีแรง มีจำนวนพอสมควรในการตรวจสอบ และแข็งแกร่ง