ชุมพร - ชุมพรประสบภัยแล้งหนัก ฝนไม่ตกนานกว่า 2 เดือน อากาศร้อนจัด ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักในอำเภอสวี ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ลำคลองน้ำแห้งขอด ทุเรียนยืนต้นตายกว่า 300 ต้น เสียหายนับล้านบาท
นางเพ็ญพร พันธุ์มณี อายุ 58 ปี ชาวเกษตรกรปลูกทุเรียนในพื้นที่ ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง บนเนื้อที่ 16 ไร่ ที่ปลูกไว้อายุกว่า 2 ปี ที่กำลังเติบโต จำนวน 310 ต้น ที่อีกราวปีกว่าจะออกผลผลิต สร้างรายได้ให้ครอบครัว กำลังยืนต้นตายทั้งหมด บางต้นมีสภาพต้นแห้งใบแห้งร่วงเหลือแต่กิ่ง บางต้นใบเริ่มเป็นสีเหลือง ส่วนยอดบนแห้งตาย ใบเริ่มร่วง
“ฝนแล้งทิ้งช่วงห่างมานานกว่า 2 เดือนแล้ว บางวันมีก้อนเมฆลอยปกคลุมมืดครึ้มเหมือนฝนจะตกแต่ฝนไม่ตก ตอนนี้เดือดร้อนหนักมาก ทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ปลูกไว้ทยอยแห้งตายทั้งหมด” นางเพ็ญพร กล่าวและว่า
ตนมีสระน้ำอยู่ 4 สระ กระจายอยู่ 4 จุด สูบรดน้ำวันละ 1 ครั้งๆ ละแค่ 10 นาที เฉพาะในช่วงเย็นเท่านั้น น้ำในสระไม่เพียงพอ เพราะความแห้งแล้ง ทำให้น้ำในสระทุกสระแห้งเหลืออยู่เพียงก้นสระเท่านั้น ทำให้ต้นทุเรียนอายุกว่า 2 ปี จำนวน 310 ต้น ขาดน้ำ ทยอยยืนต้นตายเกือบหมดแล้ว ซึ่งภายใน 3 วันนี้ หากฝนยังไม่ตก ทุเรียนที่กำลังจะตายคงไม่รอดแม้แต่ต้นเดียว จึงขอวิงวอนอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือดูแลหน่อยเพราะตนหมดปัญญาแล้ว
นางเพ็ญพร กล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจจนน้ำตาไหล ว่า ทุกปีหน้าแล้งจะมีฝนเทียมแต่ปีนี้ไม่เห็นมีฝนเทียม ไม่มีข่าวว่าจะทำฝนเทียม ทุเรียนที่ยืนต้นตายขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายรวมในเนื้อที่ 16 ไร่ เป็นเงินประมาณ 1,500,000 บาท คนทำสวนนั้นเหนื่อยมากแล้วต้องมาเจอกับวิกฤตฝนแล้งไม่มีน้ำใช้ ทำให้ความหวังอีก 2 ปีข้างหน้าจะได้เก็บผลผลิตแต่กลับสิ้นหวัง แถมยังเป็นหนี้สินอีก ได้แต่รันทดจิตใจ ต้องยืนมองต้นทุเรียนที่ปลูกมากับมือแห้งเฉาตายไปต่อหน้าต่อตา