โดย.. เมือง ไม้ขม
หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต.สรุปออกมาว่า พรรคประชาชาติได้ ส.ส.จำนวน 7 ที่นั่ง ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี 3 ที่นั่ง จ.ยะลา 3 ที่นั่งยกจังหวัด ส่วน จ.นราธิวาส 1 ที่นั่ง และได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีก 2 ที่นั่ง รวมเป็น 9 ที่นั่ง
ทำให้ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค เดินทางขึ้นกรุงเทพฯ เป็นการด่วน คาดว่าเพื่อเตรียมไปเจรจาเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งล่าสุด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคที่ชนะเลือกตั้ง แถลงชักชวนพรรคการเมือง 6 พรรคตั้งรัฐบาลร่วมกันแล้ว โดยหนึ่งในนั้นคือ พรรคประชาชาติ
มีประเด็นน่าสนใจที่ต้องบันทึกไว้คือ การที่พรรคประชาชาติเหมายกจังหวัดยะลา ชนะเลือกตั้งได้ทั้ง 3 เขต ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดมาก่อนสำหรับพรรคประชาชาติ ซึ่งผ่านการเลือกตั้งมา 2 ครั้ง และยังไม่เคยเกิดขึ้นกับ “กลุ่มวาดะห์” กลุ่มนักการเมืองมุสลิมชายแดนใต้ในอดีตที่มี “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เป็นหนึ่งในแกนนำ และย้ายชายคามาหลายพรรค แต่ไม่เคยพิชิตเขต 1 ยะลาได้เลย
ที่สำคัญ “ตระกูลมะทา” ถือเป็นบ้านใหญ่ของจังหวัดด้วย เพราะ “วันมูหะมัดนอร์” เคยเป็น ส.ส. น้องชายคือ “ซูการ์โน มะทา” เป็น ส.ส. และ “มุขตาร์ มะทา” น้องชายอีกคนหนึ่งของนายวันมูหะมัดนอร์ เป็นนายก อบจ.ยะลา
แต่พื้นที่เขต 1 ยะลา ตั้งแต่ปี 2544 บ้านใหญ่ภายใต้การนำของ “วันนอร์” ไม่เคยได้เก้าอี้ ส.ส.ที่เขต 1 ยะลาเลย แต่รอบนี้คว้ามาได้ คือ “สุไลมาน บือแนปีแน” ด้วยคะแนน 23,682 คะแนน จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ 99,228 คน
ปัจจัยที่ทำให้พรรคประชาชาติกวาดชัยชนะยกจังหวัดยะลา ซึ่งรวมถึงเขต 1 ยะลาด้วยนั้น
ประการแรกมาจากทำหน้าที่ของ ส.ส.พรรคประชาชาติในสภาในช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน เป็นที่ประจักษ์ของประชาชนในพื้นที่ว่า พรรคประชาชาติมีผลงาน แม้จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านก็ตาม ทำให้ประชาชนยิ่งมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าพรรคประชาชาติจะมาเป็นรัฐบาลจะยิ่งทำงานช่วยประชาชนได้มากยิ่งขึ้น
ประการที่ 2 คือ คนในพื้นที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนของใหม่ ซึ่งหมายถึงเปลี่ยนรัฐบาลใหม่
ประการที่ 3 “ยู่สิน จินตภากร” อดีตรองนายกเทศมนตรีนครยะลา ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 4 ของพรรคประชาชาติ ได้รวมพลังกับ “พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ” หรือ “นายกอ๋า” นายกเทศมนตรีนครยะลา ที่ครองใจคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองยะลา หันมาสนับสนุน “สุไลมาน บือแนปีแน” ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคประชาชาติ ทำให้คว้าคะแนนคนไทยเชื้อสายจีนมาได้ และผงาดขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง เอาชนะแชมป์เก่าอย่าง “อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ” อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไปได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ ยังมีผลงานที่ติดตัว “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมัยที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ส่งผลให้หลายภาคส่วนพร้อมใจกันสนับสนุน รวมทั้งลงไม้ลงมือช่วยกันหาเสียง
ขณะที่ตัวของ “พ.ต.อ.ทวี” เองได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ และทุ่มเวลาให้การปราศรัยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจจริง
ในส่วนของเขตเลือกตั้งที่ 2 อันดับ 1 “ซูการ์โน มะทา” ได้คะแนนสูงถึง 51,946 คะแนน จากผู้มาใช้สิทธิ 100,319 คน ถือว่า “นอนมา” ตั้งแต่แรก เพราะเขตนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็แพ้ไม่ได้ เนื่องจากเป็นน้องชายหัวหน้าพรรค และ “วันมูหะมัดนอร์” ครองพื้นที่มาตลอด 40 ปี กระทั่งส่งไม้ต่อให้น้องชาย
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 “อับดุลอายี สาแม็ง” ได้คะแนน 31,741 คะแนน จากผู้มาใช้สิทธิ 97,956 คน ถือเป็นแชมป์เก่าที่คว้ามาได้อีกสมัย เพราะมีผลงานเด่นหลายเรื่อง แต่หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้ “พ.ต.อ.ทวี” และ “นายกอ๋า” เหนื่อยหนักกันพอสมควรช่วงโค้งสุดท้าย ต้องลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมกันเพื่อขอคะแนนสนับสนุนจากชาวไทยเชื้อสายจีนในเบตง
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ยะลา นับตั้งแต่ปี 2538 ที่ยะลามี ส.ส.ได้ 3 คน มีเพียง 2 พรรคการเมืองเท่านั้นที่กวาดที่นั่งได้แบบยกจังหวัด คือ พรรคประชาชาติในครั้งนี้ และพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งปี 2548 และการเลือกตั้งปี 2554 ซึ่งประชาธิปัตย์เป็นคนละขั้วกับกลุ่มวาดะห์