บางคนอาจจะมองว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้แม้พรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.ตรังเพียง 2 คน จากทั้งหมด 4 ที่นั่ง ก็ยังนับได้ว่าเสมอตัวจากคราวก่อน เพราะครั้งก่อนในการเลือกตั้ง 2562 ที่ตรังมี ส.ส.ได้ 3 คนนั้น พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.ตรังเพียง 2 คน คือ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” อดีต ส.ส.ตรัง เขต 2 และ “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” อดีต ส.ส.ตรัง เขต 3
แต่หากมองลึกลงในรายละเอียดจะพบว่า หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ได้เกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจของบ้านใหญ่ใน จ.ตรัง จากบ้าน “หลีกภัย” มาที่บ้าน “โล่สถาพรพิพิธ” แทน
ฐานอำนาจเดิมของ “บ้านโล่” จะว่าไปก็อยู่ที่เขต 3 พื้นที่ของ “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” ลูกสาวของ “โกหนอ” สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ที่หลังจากได้รับการเลือกตั้งในปี 2562 ก็ก้าวขึ้นไปเป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ในชุดที่มี “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เป็นหัวหน้าพรรค
เลือกตั้งครั้งนี้ “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ“ ลงป้องกันตำแหน่งกับ "พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เรืองนัฐพงษ์” จากพรรคพลังประชารัฐ โดยมี “วิราว์ วัฒนกิจ” ที่มาพร้อมกับกระแสสีส้มของพรรคก้าวไกลขึ้นมาเป็นม้ามืด
ผลปรากฏว่า สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ เอาชนะไปตามคาด ด้วยคะแนน 31,846 เสียง ส่วน “พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เรืองนัฐพงษ์” ได้ 16,483 คะแนน ส่วน “วิราว์ วัฒนกิจ” ได้ 14,866 คะแนน
อีกเขตที่พูดได้ว่ามีฐานและความสัมพันธ์กับ “บ้านโล่” คือ เขต 4 “กาญจน์ ตั้งปอง” ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการสนับสนุนให้ลงสมัครในนามพรรคจาก สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการประธานรัฐสภาที่ต้องการจะลงสมัครในเขตนี้ โดยอ้างคำพูดของ “ชวน หลีกภัย” ว่า “ท่านชวนให้ผมมาลงตรังเขต 4” ถึงขั้นผู้ใหญ่ในพรรคต้องมาหย่าศึก โดย “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องประกาศให้ประชาชนโหวตเลือกกัน ผลปรากฏว่า “กาญจน์” ชนะได้ลงสมัครในนามพรรค ส่วน “สมบูรณ์” เมื่อไม่ได้ดังหวังก็โบกมือลา ย้ายไปในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ
ผลการเลือกตั้งในเขต 3 “กาญจน์ ตั้งปอง” ได้ 22,840 คะแนน ชนะ “ดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์” จากพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ 21,725 คะแนน โดย “ดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์” ก็ไม่ใช่คนไกล เป็นลูกหลาน “บ้านโล่สถาพรพิพิธ” เป็นหลานน้าของ “สมชาย โล่สถาพรพิพิธ” การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 “ดิษฐ์ธนิน” ลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐในเขต 3 ชนกับ “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง
บ้างก็ว่างานนี้ ระหว่าง “กาญจน์” และ “ดิษฐ์ธนิน” ใครได้เป็น ส.ส. “บ้านโล่” ก็ได้ประโยชน์ แต่คนที่หนักคือ “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” เพราะเหมือนเจอเกมสองรุมหนึ่ง ดึงคะแนน ท้ายสุด “สมบูรณ์” ได้มาเพียง 3,745 คะแนน อยู่ที่อันดับ 5
“กาญจน์ ตั้งปอง” ก่อนมาลงเลือกตั้ง ส.ส. เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกันตัง อายุ 37 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และเป็นบุตรชายของนายวิสิฐ ตั้งปอง อดีตนายอำเภอย่านตาขาว-กันตัง และอดีตปลัดอำเภอสิเกา
และในเขต 2 แม้ผู้ชนะการเลือกตั้ง “ทวี สุระบาล” จะไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ลงในนามพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็พูดได้เต็มปากว่า “โกหน่อ” ประกาศหนุนเต็มตัว ถึงขั้นจัดงานเปิดตัวในชื่อ “คนรักทวี” และ “คนไม่เอาสาทิตย์”
ก่อนการเลือกตั้ง "โกหนอ" เคยบอกว่า “ในเขต 2 ตรังของนายสาทิตย์ ผมก็ยังจะสนับสนุนนายทวีเหมือนเดิม ผมมีอิสระในการตัดสินใจ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหลังจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี”
“นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เคยขอร้องเรื่องนี้ไว้เหมือนกันว่าไม่อยากให้ผมไปยุ่งในเขต 2 ของนายสาทิตย์ เพราะนายเฉลิมชัย รู้ว่าหลังการเลือกตั้งนายก อบจ.ตรังครั้งที่ผ่านมา ผมต้องมีอะไรค้างคาอยู่ ผมก็รับปากแล้วนะ ไม่อยากไปยุ่ง แต่สุดท้ายมันมาเกิดประเด็นเรื่องคลิปแฉบ่อนเรือนไทยร้อยล้าน มีเพจปลอมออกมา ซึ่งเรารู้ว่าเป็นของใครในจังหวัดตรัง มากล่าวหาว่าผมรับเงินสกปรกจากบ่อนเรือนไทยร้อยล้านเอามาส่งลูกสาวไปชูคอในสภา”
“ผมว่ามันหนักเกินไปสำหรับผม นี่คือจุดแตกหักที่ผมคิดว่าจะประสานรอยร้าวยากแล้ว”
และด้วยแรงหนุนจาก “บ้านโล่” ผลการเลือกตั้งออกมา “ทวี สุระบาล” ได้คะแนนนำลิ่วแทบไม่เห็นฝุ่นที่ 63,185 คะแนน น่าจะเป็นคะแนนที่ผู้สมัครได้รับสูงที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ ในขณะที่ “สาทิตย์” ได้ 17,239 คะแนน
เหลือเพียงเขต 1 ที่ไม่ใช่คน “บ้านโล่” แต่ก็ไม่ใช่คนของ “บ้านหลีกภัย” เช่นกัน แม้ว่าผู้ชนะการเลือกตั้งจะชื่อ “ถนอมพงษ์ หลีกภัย” ก็ตาม
“ถนอมพงษ์ หลีกภัย” เป็นญาติของ “ชวน หลีกภัย” เคยเป็นรองนายกเทศมนตรีนครตรัง ก่อนมาลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีข่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติส่งนายตำรวจใหญ่ชื่อเสียงโด่งดังไปทาบทาม ผ่านกำนันคนดังเจ้าของบ้านทรงไทย ถึงขั้น “ชวน หลีกภัย” ต้องออกมาพูดถึง
“ถนอมพงษ์ หลีกภัย” เอาชนะ “ตุลกานต์ มักคุ้น” คนสนิท “บ้านหลีกภัย” ไปด้วยคะแนน 25,965 คะแนน โดย “ตุลกานต์” หล่นไปอันดับ 5 ได้ 7,095 คะแนน ในขณะที่อันดับ 2 คือ “กิตติพงศ์ ผลประยูร” จากพรรคพลังประชารัฐ ได้ 21,018 คะแนน
นับนิ้วรวมแล้ว หลังการเลือกตั้ง 2566 “บ้านโล่” ได้ ส.ส.ตรังมา 3 คน ส่วน “บ้านหลีกภัย” นอกจากจะไม่ได้ ส.ส.ตรังติดมาสักคน ร่วงหมดทุกเขต คะแนนที่ออกมาก็น่าผิดหวัง บ่งบอกถึงความคิด “คนตรัง” ได้หลายแง่มุม..