พัทลุง - ญาติคาใจคนหายหลังถูกยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง หวั่นถูกอุ้มฆ่า แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองพัทลุงแล้ว ได้แต่รับเรื่องแต่ไม่รับทำ บุกเข้ากรุงเทพฯ ร้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้ช่วย จนตำรวจยอมเดินหน้าสืบคดี
วันนี้ (8 พ.ค.) จากรณีที่นางประดับ สุวรรณรัตน์ อายุ 70 ปี อยู่ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ศุภชัย หมื่นอักษร ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 ว่า นายเจษฎา สุวรรณรัตน์ หรือดอย อายุ 40 ปี หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 ตอนเย็น พร้อมรถสามล้อพ่วงข้าง ใส่เสื้อคอกลมสีน้ำตาลกางเกงขายาว รองเท้าบู๊ต โดยไม่ทราบชะตากรรม หวั่นจะถูกอุ้มฆ่า เพราะก่อนที่จะหายตัวได้เคยถูกยิงมาแล้ว แต่หนีได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นไม่นานได้หายตัวไป โดยตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ต่อมาญาติพยายามตามหา จนเลยเวลา 50 วัน ได้เข้าร้องต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยเหลือ
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังรับเรื่องได้เรียกตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เข้าพบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสั่งให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามและรายงานผลภายใน 7 วัน จนล่าสุด พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ผกก.สืบสวน ตำรวจภูธรพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง รอง ผกก.สภ.นาขยาด หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพัทลุง (ฉก.เสือดำ) ได้ร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดี โดยได้เชิญ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.เมืองพัทลุง พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมือง เพื่อร่วมคลี่คลายคดี
ต่อมา ชุด พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง รอง ผกก.สภ.นาขยาด หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรพัทลุง ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดในพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง 2 ราย พร้อมยาเสพติดจำนวน 27 เม็ด นำตัวมาสอบสวน โดยพบว่าทั้ง 2 มีความสนิทกับนายนายเจษฎา สุวรรณรัตน์ อยู่ด้วยกันก่อนหายตัวไป 2 วัน โดยเจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบพบว่าทั้ง 2 ไม่สามารถให้รายละเอียดที่เป็นเรื่องราวมากนักเนื่องจากเพิ่งเสพยาเสพติด ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดได้เดินทางไปเขาหลักโค บริเวณใกล้สำนักสงฆ์เขาหลักโค ต.นาโหนด อ.เมือง เพื่อค้นหานายเจษฎา หรือดอย ที่หายตัวไป โดยการค้นหาตามโพรงถ้ำต่างๆ และตามเพิงหิน และรอยหลุมที่มีการขุดไม่นาน แต่จากการค้นหาแบบปูพรมของเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานหรือร่างผู้ศูนย์หายแต่อย่างใด
ในขณะที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรพัทลุงอีกชุดได้ออกไปแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ไม่สามารถเก็บอะไรได้ เนื่องจากเวลาผ่านเลยมาแล้วหลายวัน ก่อนที่จะเรียกพี่สาวของผู้เสียหายมาสอบเพิ่มเติม เพื่อหาเบาะแสต่อไป
ขณะที่ญาติผู้ศูนย์หายระบุว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง หลังรับแจ้งเหตุคนหายแล้วลงพื้นที่แกะรอยจากภาพวงจรปิดคิดว่าป่านนี้คงจะเจอตัว หรือเจอร่องรอยของนายดอยแล้ว แต่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ไม่ทำ ญาติหาภาพจากกล้องวงจรปิดเอง แต่ไม่ได้อะไรมากนัก จนปล่อยให้พยานหลักฐานต่างๆ หายไป ทั้งที่รู้ว่า นายเจษฎา ถูกยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนหายตัวเพียง 1 เดือน พร้อมทั้งแจ้งความแต่คดีไม่คืบอะไร จนต้องมาหายตัวไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พบว่า นายเจษฎา สุวรรณรัตน์ ที่หายตัวไปมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพติดในพื้นที่ และเจ้าตัวเป็น 1 ในผู้เสพ ชึ่งเจ้าหน้าที่เร่งสืบหาว่าพัวพันกับกลุ่มไหนบ้างเพื่อหาความกระจ่างในคดีคนหายดังกล่าว