ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ลุงตู่” มาภูเก็ตปราศรัยช่วยผู้สมัครหาเสียง คนแห่ต้อนรับกว่า 10,000 คน จนล้นลานเวทีกลางสะพานหิน แทบแตก หยอดคำหวานคิดถึง กลับไปป่วยเป็นโรคหัวใจโต เพราะได้ใจคนภูเก็ตมาเต็มๆ ขอให้เลือกรวมไทยสร้างชาติยกจังหวัด
วันนี้ (7 พ.ค.) พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยลูกพรรคทั้ง 3 เขต หาเสียง นำโดย "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายปิยะ สีดอกบวบ ผู้สมัครเขต 1 เบอร์ 8 นางนวลจันทร์ สามารถ คุ้มบ้าน ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 3 และนายชาญณรงค์ ประทีป ณ ถลาง ผู้สมัครเขต 3 เบอร์ 7 ซึ่งจัดขึ้นที่เวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเดินทางมาเวทีสะพานหิน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมนายพีระพันธ์ สารีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคแวะสักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีประชาชนไปรอต้อนรับจำนวนมาก
หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปเวทีกลางสะพานหิน ซึ่งก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นเวที แกนนำพรรค เช่น นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายนรกร วังบุญคงชนะ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางประชาชน และ แฟนคลับ “ลุงตู่” ที่มารอฟังการปราศรัยจนล้นลานเวทีกลางสะพานหิน ซึ่งเก้าอี้ที่เตรียมไว้ 12,000 ตัว ไม่เพียงพอ จนต้องยืนฟัง
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงเวทีกลางสะพานหิน ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ ซึ่งประชาชนให้การต้อนรับอย่างล้นหลาม พร้อมมอบดอกไม้ พวงมาลัย สะตอ ขอถ่ายรูป ส่งเสียงเชียร์จนเสียงดังกึกก้องไปทั้งลานเวทีกลางสะพานหิน ซึ่งใช้เวลานานกว่าจะเดินมาถึงเวที เนื่องจากมีประชาชนขอถ่ายรูปตลอดทางจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
หลังจากนั้น “พล.อ.ประยุทธ์” ได้ขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมทั้งแนะนำตัวผู้สมัครทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายปิยะ สีดอกบวบ ผู้สมัครเขต 1 เบอร์ 8 นางนวลจันทร์ สามารถ คุ้มบ้าน ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 3 และนายชาญณรงค์ ประทีป ณ ถลาง ผู้สมัครเขต 3 เบอร์ 7 พร้อมกับกล่าวว่า ที่มาวันนี้เพราะคิดถึงคนภูเก็ต และพูดเป็นภาษาใต้ว่า “คิดถึงจังฮู้” และลงมาภาคใต้กินอาหารใต้ทุกมื้อ “หรอยอย่างแรง” จนคนที่มาร่วมฟังการปราศรัยตบมือและโห่ร้องด้วยความถูกใจ
ต่อมา ลุงตู่ ถามคนภูเก็ตว่า ใครเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตอนนั้นที่ตัดสินใจเปิดเพราะมั่นใจชาวภูเก็ตว่าจะร่วมกันทำงานกับรัฐบาล มาถึงวันนี้ ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีแห่งหนึ่งของโลก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาก และกำลังจัดงานเอ็กโป 2028 หากเราได้เป็นเจ้าภาพนี่คืออนาคตของภูเก็ต ที่จะทำให้ภูเก็ตเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และจะทำให้มีคนเดินทางมาภูเก็ตมากขึ้นเป็น 10 เท่า ขอให้ชาวภูเก็ตเชื่อมั่น
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า จะให้การให้ท่องเที่ยวของภูเก็ตดีขึ้น มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เพิ่มค่าแรงให้มากขึ้น รวมทั้งเงินของผู้สูงอายุ เดินหน้าบัตรลุง คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน กองทุนฉุกเฉิน ศูนย์ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โรงพยาบาลประจำอำเภอ และสำหรับภาคใต้ ถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาล จะตัดถนนมาภาคใต้อีก 1 เส้น ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานกับถนนสายเพชรเกษม นอกจากจะทำโครงการเชื่อมอ่าวไทยกับอันดามัน หรือโครงการไทยแลนด์ลิเวียร่า เป็นต้น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้หยอดคำหวาน ว่า อยากลงทะเลภูเก็ตมากที่สุด มากี่ครั้งกี่ครั้งก็ไม่ได้ลงทะเลเพราะมาตรวจราชการ วันนี้ดีใจมากมีคนมามืดฟ้ามัวดิน กลับไปไม่รู้จะนอนหลับหรือไม่ เพราะป่วยเป็นหัวใจพองโต เนื่องจากคนภูเก็ตเข้ามาอยู่ในหัวใจจนทำให้หัวใจโต และอยากถามคนภูเก็ต รังเกียจตนหรือไม่ เพราะตนเป็นทหารมาก่อน ทหารที่ดูแลบ้านเมืองก็เป็นลูกหลานของทุกคนทั้งสิ้น อย่าให้ใครมาบอกว่าข้าราชการคือช้างป่วย ถ้าทหารและข้าราชการเป็นช้างป่วย ประเทศจะมั่นคงอย่างนี้หรือไม่
ดังนั้น จึงควรยุติเรื่องความแตกแยกภายในประเทศเพราะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก พร้อมยกบทกลอน “อันศึกนอกศึกในนั้นไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง” อย่าให้ใครมาทำให้เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะการแตกแยกในครอบครัว พ่อทะเลาะกับลูก แม่ทะเลาะกับลูก อย่างนี้ทำไม่ได้ ดังนั้น อย่าให้ใครมาปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกนี้
นอกจากนั้น มีบางคนบอกว่า “ลุงตู่” แก่แล้วให้กลับไปเลี้ยงหลาน ขอบอกว่ายังไม่แก่ ยังแข็งแรงดี และไม่มีหลานให้เลี้ยง ลูกโตหมดแล้ว เลยต้องอยู่ต่อ และถ้าได้อยู่ต่อจะสานต่อนโยบายที่ทำแล้ว ทำอยู่ และทำต่อ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวขอคะแนนเสียงจากชาวภูเก็ต ขอให้เลือก ส.ส.เขต ทั้ง 3 เขต และให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าคูหา ให้นึกถึงหน้าตนไว้ อย่าไปสะดุดอะไรเสียก่อน อย่ากาเบอร์ผิด และอย่าไปเชื่อใครว่าตนไปอยู่พรรคอื่น ตนอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติแน่นอน
พร้อมกับกล่าวด้วยว่า ตนมีหัวใจเป็นสีม่วง เปรียบเสมือนหัวใจของคนใกล้ตายจึงไม่โกหก แต่บางคนใกล้ตายกลับพูดจาโกหกเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกวัน ดังนั้น จึงขอให้เชื่อว่าตนเป็นคนพูดจริงทำจริง ถ้าอยากได้รัฐบาลที่ทำจริงและมีผลงานชัดเจนต้องเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ