ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “เดชา เชาวลิต” ตัวตึงแก๊งพ่อ ส.จ.สุราษฎร์ฯ กร่างไม่หยุด อาศัยช่วงงวดเลือกตั้งนำชายฉกรรจ์กว่า 30 คน บุกฮุบสวนเครือ “ทองไทยรับเบอร์” อีกหน คราวนี้ปล้นแบบซึ่งหน้าไล่ตัดต้นยางใส่รถบรรทุกไปขายแล้วมูลค่ากว่า 5 แสนบาท ตำรวจรวบตัวพร้อมอาวุธปืนได้ 1 ราย ด้านทนายบริษัทจ่อหอบหลักฐานขอศาลถอนประกันแล้ว
รายงานข่าวจาก จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวานนี้ (6 พ.ค.) นายเดชา เชาวลิต และบุตรชายคือ นายปกป้อง เชาวลิต ได้นำกำลังชายฉกรรจ์กว่า 30 คน บางส่วนพกพาอาวุธปืน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ พร้อมนำเลื่อยยนต์ตัดไม้ รถแบ็กโฮ รถคีบไม้ และรถบรรทุกไม้ บุกรุกอย่างอุกอาจเข้าไปสวนยางพาราของเครือบริษัท ทองไทยรับเบอร์ จำกัด ในพื้นที่ ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อยึดครองที่ดินและทำการตัดโค่นไม้ยางนำออกไปขาย ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่าบุตรชายอีกคนของนายเดชาคือ “ส.จ.ปิ๊ก” นายปรีติ เชาวลิต ส.อบจ.สุราษฎร์ธานี เขต อ.ชัยบุรี มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งมีข้าราชการผู้ใหญ่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้การหนุนหลังอยู่ด้วย
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ระหว่างบุกรุก นายเดชา กับลูกชายได้แสดงการข่มขู่และคุกคามให้พนักงานที่ดูแลสวน ผู้รับเหมา และคนงานที่กำลังตัดไม้ยางให้บริษัทอย่าได้กระทำการขัดขืนใดๆ อีกทั้ง นายเดชา ประกาศให้ทราบด้วยว่า หลังจากนี้ฝ่ายตนจะไม่ใช้กระบวนทางกฎหมาย แต่จะใช้กฎหมู่และมาตรการขั้นเด็ดขาดแก้ข้อพิพาทที่มีอยู่กับบริษัท ทำให้มีผู้รับเหมาตัดไม้ยางให้บริษัท 2-3 รายเกิดความกลัวเก็บข้าวของหนีออกจากพื้นที่ไป อีกทั้งมีหลักฐานและภาพถ่ายชี้ชัดว่า นายเดชา และลูกชายนำบริวารบุกเข้าไปเตรียมการมาตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.2566
ดร.ปรีดี ลีลาเศรษฐวงศ์ กรรมการบริหารบริษัททองไทยรับเบอร์ กล่าวว่า ได้รับรายงานความเสียหายเบื้องต้นไม่นับรวมที่ดิน เฉพาะวันที่ 6 พ.ค.2566 ไม้ยางของบริษัทน่าจะถูกตัดไปหลายคันรถ 10 ล้อ คิดเป็นมูลค่าราว 500,000 บาท ซึ่งบริษัทได้ให้ทนายแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ชัยบุรี ข้อหาบุกรุกและปล้นทรัพย์ซึ่งหน้าแล้ว โดยตำรวจได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์สามารถจับกุมคนของนายเดชา พร้อมอาวุธปืนได้ 1 ราย ส่วนที่เหลือขัดขืน จากการเจรจามีกลุ่มชาวบ้านที่ถูกชักชวนมาด้วยข้อมูลผิดๆ ยอมถอนตัวออกไปแล้วส่วนหนึ่ง
ที่ผ่านมา สวนยางบริษัทถูกกลุ่มนายเดชาบุกรุกหรือก่อม็อบเข้ายึดครองในลักษณะนี้หลายระลอก ทุกครั้งได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ และมีการยื่นฟ้องศาลไปแล้วด้วย ยืนยันได้ว่าที่ดินของบริษัทใน อ.ชัยบุรี มีเอกสารสิทธิถูกต้องทั้งหมด นายเดชา ทราบเรื่องดีเพราะเคยรับจ้างบริษัทร่วมบุกเบิกสวนยางกันมาช่วง 40 ปีก่อน แต่มีเหตุไม่โปร่งใสทำให้ต้องแยกทางกัน ตอนนั้นบริษัทแบ่งที่ดินให้ไปกว่า 1,000 ไร่ ต่อมาปี 2564 นายเดชา พาคนมาบุกยึดสวนยางบริษัทก็ยอมมอบเพิ่มให้อีกกว่า 300 ไร่ โดยหวังว่าปัญหาจะจบ แต่ต้นปี 2566 กลับพาคนมาบุกยึดอีกพร้อมอ้างชื่อ นายปกป้อง ลูกชายถือกรรมสิทธิ์ทับซ้อนที่ดินของบริษัท
“สังคมไม่แปลกกับการกระทำของนายเดชาและลูกๆ เพราะพวกเขาทำพฤติกรรมอุกอาจแบบนี้อยู่บ่อยๆ และไม่ใช่เฉพาะกับชาวบ้านเท่านั้น แม้แต่ญาติพี่น้องเขาเองก็ไม่เว้น จริงๆ วันที่ 12 พ.ค.นี้ นายเดชา ต้องขึ้นศาลเพื่อไต่สวนนัดแรกในคดีที่บริษัทฟ้องไว้ที่ศาลจังหวัดเวียงสระ และคดีนี้ตัวนายเดชา เองเคยถูกศาลออกหมายจับมาแล้วฐานละเมิดการคุ้มครองฉุกเฉินที่ไม่ให้เข้ามายุ่มย่ามกับที่ดินของบริษัท เมื่อยังไม่ยอมหยุดทีมทนายจะนำหลักฐานไปยื่นขอศาลให้ยกเลิกการประกันตัว เพื่อให้นายเดชา สู้คดีจากในคุกจนกว่าจะมีคำพิพากษา”
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมด้วยว่า มีการตั้งข้อสังเกตทำไมกลุ่มอิทธิพลเมืองคนดีถึงเร่งลงมือช่วงเลือกตั้ง ส.ส.ใกล้งวด ทั้งที่ผู้ว่าฯ มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานคุมอย่าให้มีความวุ่นวาย อีกทั้งเมื่อกลางเดือน เม.ย.2566 นายเดชา และลูกๆ ยังเคยนำม็อบกว่า 70 คนบุกยึดที่ดินและตัดไม้ยางจากสวนบริษัทแบบเดียวกันมาแล้ว ซึ่งภายหลัง นายอุทัย เทือกสุบรรณ นายอำเภอชัยบุรี ได้เรียกชาวบ้านที่ถูกชักชวนร่วมม็อบห้ามบุกรุกอีก และให้รอผลการตรวจสอบสิทธิที่ดิน แต่แล้วกลับมีคนเห็นชาวบ้านบางคนที่เคยร่วมม็อบครั้งก่อนเข้าร่วมบุกยึดสวนยางบริษัทอย่างอุกอาจในครั้งนี้อีก