ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จับ “หัวแดง” โจรงัดแงะ 3 คดีใน 3 เดือนที่ จ.สงขลา ได้เงินสดและทรัพย์สินร่วมแสนบาท สารภาพติดหนี้พนันจึงลงมือเพื่อนำไปใช้หนี้ พบประวัติเคยติดคุกคดีลักทรัพย์มา 10 ปี และหนีหมายจับคดีลักทรัพย์ปี 65
ที่ จ.สงขลา หลังจากที่มีคดีลักทรัพย์จากโจรคนเดียวกันก่อเหตุต่อเนื่อง 3 คดี ภายใน 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่้ 19 มีนาคม งัดร้านกาแฟคาราเต้ ถ.เทพสงเคราห์ ได้โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง เงินสด 3,500 บาท และเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด ถัดมาเมื่อวันที่ 14 เมษายน งัดร้านพรีม่ามอลล์ ถ.ศุภสารรังสรรค์ ได้โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 65,000 บาท และวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา งัดร้านทุกอย่าง 10 บาท ถ.นวนแก้ว ได้เงินสดไป 9,300 บาท
ซึ่งทั้ง 3 คดีมีภาพจากกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายเข้าไปก่อเหตุ และพบว่าเป็นคนคนเดียวกัน ใช้รถจักรยานยนต์คันเดียวกัน แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสของหัวขโมยรายนี้
ล่าสุด วานนี้ (6 พ.ค.) ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ และชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ สามารถติดตามจับกุมโจรคนดังกล่าวได้แล้ว ทราบชื่อคือ นายชัยรัตน์ เทพแก้ว อายุ 52 ปี หรือหัวแดง โดยตามไปจับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยึดของกลางที่เป็นหลักฐานสำคัญตามภาพจากกล้องวงจรปิดได้ครบชุด
ทั้งรถจักรยานยนต์ซูซูกิสแมช สีแดง ป้ายทะเบียน 6660 สงขลา พร้อมชุดที่สวมใส่ขณะไปก่อเหตุงัดแงะทั้ง 3 แห่ง ซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของโจรรายนี้ที่จะสวมใส่เหมือนกันทุกครั้ง โดยจะสวมเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีเทา มีอักษรภาษาอังกฤษที่หน้าอก FIRMLY NATION นุ่งกางเกงวอร์มขายาวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีขาว รองเท้าผ้าใบผ้าใบลำลองพื้นสีขาว ขับรถจักรยานยนต์สีแดง เมื่อก่อเหตุเสร็จจะถอดชุดโจรออก เหลือเพียงชุดลำลองเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ เพื่อเปลี่ยนตัวไม่ให้เหมือนเดิมยากที่จะติดตามจับกุมเพราะเสื้อผ้าเป็นคนละชุด แต่สุดท้ายจะพรางตัวยังไงตำรวจก็ตามแกะรอยและจับกุมได้
จากการสอบสวน นายชัยรัตน์ หรือหัวแดง ยอมรับสารภาพโดยอ้างว่า ติดหนี้พนันแทงบอลงอมแงม จึงต้องการหาเงินไปใช้หนี้และเล่นพนัน ตระเวนงัดแงะร้านค้าทั้ง 3 แห่งในเมืองหาดใหญ่ ต่อเนื่องติดกัน 3 เดือน เงินที่ได้มาเอาไปใช้หนี้พนันและเล่นพนันหมด
และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยติดคุกในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 10 ปี และยังหนีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ของ สภ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2565 อีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดี โดยครั้งนี้น่าจะติดยาวเพราะก่อเหตุต่างกรรมต่างวาระกันถึง 3 คดี และเคยมีประวัติก่อเหตุในคดีลักทรัพย์ และติดคุกมาแล้วด้วย