สตูล – “ข้าวเหนียวปลาเค็ม” เมนูวัฒนธรรมขึ้นชื่อประจำถิ่นของจังหวัดสตูล โดยมีร้านที่เปิดขายเมนูนี้มาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี โดยมีลูกค้าที่หลากหลาย และต่างติดใจในรสชาติ ซึ่งสร้างรายได้วันละ 5,000-6,000 บาท
เมนูข้าวเหนียวปลาเค็ม เมนูวัฒนธรรมขึ้นชื่อประจำถิ่นของจังหวัดสตูล ฟังดูเหมือนจะเป็นเพียงของกินธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาสำหรับร้านนี้ เพราะข้าวเหนียวปลาเค็มที่ใช้ และปลานึ่ง รวมทั้งน้ำพริกกะปิ กลมกล่อมกินแล้วเข้ากันอย่างลงตัว บวกกับโรตีน้ำแกง และชาร้อนๆ
โดยร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนยนตรการกำธร ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน จ.สตูล (ตรงข้ามตำรวจทางหลวง) ด้วยความพิเศษที่ใส่ใจตั้งแต่วัตถุดิบ เริ่มจากข้าวเหนียวที่นุ่มนำมามูนกับกะทิ (ในสัดส่วนน้ำกะทิ 1 กก.ต่อข้าวเหนียว 1 กก.) ปลาเค็มหลังเขียวและปลานึ่งผัดขมิ้น กินกับน้ำพริกกะปิชั้นดี (มาจากหมู่บ้านตันหยงโป จ.สตูล) แก้เลี่ยน ซึ่งเป็นเมนูพื้นถิ่น
โดยทางเจ้าของร้านบอกว่าขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่นานกว่า 40 ปี ก่อนส่งต่อให้ตนเองเป็นรุ่นที่ 2 เริ่มขายมาตั้งแต่ราคา 10 บาท เมื่อข้าวของแพงก็ปรับราคาขึ้นมาเป็น 25 บาท กินกันแบบจุกๆ แล้วให้ดีต้องกินคู่กับโรตี น้ำชากาแฟสูตรโบราณ ที่นี่ยังคงใช้เตาฟืน ลวกแก้วน้ำฆ่าเชื้อแล้วยังป้องกันกลิ่นคาวได้ด้วย ซึ่งมีลูกค้าที่หลากหลายและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมากินกัน โดยร้านเปิดตั้งแต่ 06.00-10.00 น. (ปิดเฉพาะวันศุกร์)
นายสมนึก มนูญดาหวี ลูกค้ากล่าวว่า เป็นลูกค้ามานานหลายปีแล้ว ทุกเช้าหลังออกกำลังกายปั่นจักรยานจะแวะกินที่ร้านนี้ มีเพื่อนฝูงมาหาจะแนะนำมาร้านนี้ เพราะเป็นอาหารพื้นบ้าน มีครบทั้งข้าวเหนียวปลาเค็ม โรตีน้ำแกง น้ำชากาแฟโบราณ หากจะกินให้อร่อยต้องกินกับมือ (ล้างมือก่อน) จะได้อรรถรสของการกินข้าวเหนียวปลาเค็มตามแบบฉบับอาหารพื้นบ้านอย่างแท้จริง
นางขวัญใจ ทับโทน อายุ 46 ปี ลูกค้ากล่าวว่า มากินที่ร้านนี้ตั้งแต่เล็กจนโต ด้วยรสชาติไม่เคยเปลี่ยน ชอบที่ข้าวเหนียวนุ่มกลมกล่อม กินกับปลาเค็มที่ไม่เค็มมากเกินไปลงตัว กินร้านอื่นก็ไม่อร่อยเหมือนร้านนี้
ทางด้าน นายอนิรัญ อาโกบใบ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านทายาทรุ่นที่ 2 กล่าวว่า เปิดร้านขายมา 40 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นป๊ะม๊ะ (พ่อแม่) ซึ่งท่านขายมานาน 30 ปี ส่วนผมมาขายต่อรุ่นที่ 2 นาน 10 ปี เมนูข้าวเหนียวปลาเค็มต้องกินคู่กับน้ำพริกกะปิ หากไม่มีลูกค้าจะไม่ชอบกิน เมนูจะมีข้าวเหนียวปลาเค็มและปลานึ่ง ลูกค้าจะมาทั้งกรุ๊ปทัวร์ นักเดินทาง ลูกค้าประจำในอำเภอ ลูกค้าจากประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้าน มีเมนูโรตีไส่ไข่ น้ำแกงธรรมดา ไข่ลวก เสริมข้าวมันไก่ ลูกค้าหลากหลายชนชั้น
“โดยที่ร้านจะทำขายเยอะสุดในวันหยุด วันละ 2 หม้อ น้ำหนักประมาณ 25 กก. (เสาร์อาทิตย์ และหยุดนักขัตกฤกษ์) วันธรรมดา 15 กก. รายได้จากการขายจานละ 25 บาทและโรตี น้ำชากาแฟ เป็นธุรกิจในครอบครัวลูกหลานมาช่วยกันขาย ได้ประมาณวันละ 5,000-6,000 บาท” เจ้าของร้านทายาทรุ่นที่ 2 กล่าว