นครศรีธรรมราช - โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ส.ส.เดือด อดีตผู้ใหญ่บ้านโร่แจ้งความกล่าวหานายอำเภอท่าศาลา พาลูกน้องติดอาวุธครบมือบุกเรียกออกมาจากบ้านกลางดึก ขู่ไม่รับรองชีวิตและทรัพย์สิน บังคับให้หนุนผู้สมัครเพียงคนหนึ่งในพื้นที่ จี้มหาดไทยย้ายออกจากพื้นที่ ตั้ง กก.สอบ
วานนี้ (28 เม.ย.) นายอะมาตย์ ไทรทอง อายุ 62 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านในท้องที่หมู่ 5 ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.วัชรินทร์ คงเพ็ชร พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ระบุว่า นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอท่าศาลา พร้อมด้วยกำลัง อส.พร้อมอาวุธจำนวน 2 คันรถ ได้เดินทางมาที่บ้านในเวลา 00.50 น. วันที่ 28 เมษายน พร้อมกันนั้นได้มีการตะโกนเรียกให้ออกมาพบ หลังจากที่นายอะมาตย์ ออกมาพบได้ระบุว่า “อย่ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง” พร้อมทั้งกล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลห้ามออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น หากไม่ยอมออกมาช่วยหาเสียงให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่งเท่านั้น จะไม่รับรองชีวิตและทรัพย์สิน จึงทำให้เกิดความหวาดกลัว โดยการแจ้งความได้มีการนำหลักฐานเป็นบันทึกภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของผู้แจ้งเป็นหลักฐานมีภาพรถทั้ง 2 คันชัดเจน และคันหลังมีลักษณะเป็นรถประจำตำแหน่งของนายอำเภอ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดตามข้อเท็จจริงเรื่องนี้พบว่าพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ได้มีการรับแจ้งความ และอยู่ในระหว่างเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการเนื่องจากผู้ถูกแจ้งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งเกี่ยวข้องกับช่วงที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และจะได้รายงานไปตามขั้นตอนเร่งด่วน ขณะเดียวกัน นายอะมาตย์ พร้อมครอบครัวและชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรมราช ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พิจารณาพฤติการณ์และดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากผู้ถูกแจ้งความเป็นนายอำเภอ และยังมีตำแหน่งเป็นประธาน กกต.เขต 9 นครศรีธรรมราชด้วย
ขณะที่บริเวณบ้านของนายอะมาตย์ ไทรทอง บริเวณท้องที่หมู่ 5 ตำบลท่าศาลา ขณะนี้ได้มีเพื่อนบ้านมาช่วยกันดูแลความปลอดภัยระวังคนแปลกหน้า เนื่องจากเกรงอันตรายอาจเกิดขึ้นกับนายอะมาตย์ หลังจากที่มีการแจ้งความนายอำเภอท่าศาลา ขณะเดียวกัน หลายคนมีความหวาดกลัวเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดในช่วงหลังเที่ยงคืน ผู้ที่นำกำลังติดอาวุธเข้ามาถูกระบุว่าเป็นนายอำเภอยิ่งหวาดวิตกเนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีลักษณะท่าทีแข็งกร้าว มีการข่มขู่แกมบังคับให้สนับสนุนผู้สมัครรายหนึ่ง ยิ่งทำให้มีความหวาดกลัว
นายอะมาตย์ ไทรทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนึกไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองทั้งที่เคยเป็นผู้ใหญ่บ้านมาเกือบ 40 ปี เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก การเข้ามาของนายอำเภอมีกล้องวงจรปิดของชาวบ้านบันทึกภาพได้ตลอดทาง มาเรียกที่หน้าบ้าน ชาวบ้านได้ยิน เมื่อตนเองออกมาหาที่รถคันแรก คนในรถเป็น อส.ติดอาวุธทุกคน ได้บอกว่าให้ไปที่คันหลัง เมื่อไปที่คันหลังจึงพบว่าเป็นนายอำเภอ หลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์ขึ้น ขอเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการตรวจสอบ และขอให้มีการย้ายออกนอกพื้นที่ เนื่องจากการประพฤติเช่นนี้ชัดเจนว่ามีการวางตัวไม่เป็นกลาง ขอให้เร่งตรวจสอบ การที่ชาวบ้านจะเลือกใครเขามีอยู่ในใจอยู่แล้ว ใช้วิธีการเช่นนี้ถือว่าไม่เหมาะสม
ขณะที่นายเราะหมาน ปริงทอง ส.อบต.หมู่ 5 ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นายอะมาตย์ได้โทรศัพท์ไปแจ้งว่าถูกข่มขู่ จึงรีบออกมาจากบ้านวิ่งมาที่บ้านของนายอะมาตย์ แต่ปรากฏว่ารถทั้ง 2 คันได้ออกรถไปแล้ว หลังจากนั้นจึงมาหารือกันจนเข้าไปแจ้งความ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าไม่สมควรอย่างมากชาวบ้านจะเลือกใครเป็นสิทธิของทุกคน ไม่ใช่มีมีลักษณะเช่นนี้ มหาดไทยควรดำเนินการย้ายออกนอกพื้นที่
เช่นเดียวกับนายการิยา แสงสี โต๊ะอิหม่ามผู้นำทางศาสนา ในพื้นที่ระบุว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากหวาดกลัว ไม่ควรเกิดขึ้น เมื่อดูวงจรปิดที่บ้านมีคนเดิมตามมาคุมเชิงด้วย ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหนแต่ยามวิกาลไม่เหมาะสมไม่ว่าเขาหรือเราไม่ควรเกิดขึ้น เป็นใครต้องระแวงในช่วงนี้หัวเลี้ยวหัวต่อ มานั่งกินกาแฟกันดีกว่า หลายคนตกใจ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายเอกชัย สุนทร นายอำเภอท่าศาลา เพื่อสอบถามเหตุการณ์นี้แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนในพื้นที่ตำบลท่าศาลา โดยเฉพาะชุมชนชาวไทยมุสลิมที่เกิดเหตุได้มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างมาก และผู้นำศาสนาในหลายหมู่บ้านได้หารือกันเพื่อเคลื่อนไหวบางอย่างเนื่องจากเห็นว่าหลายคนเคยพบเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน หากไม่มีความเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อกระทรวงมหาดไทย หรือผู้มีอำนาจอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้