"นิพนธ์" มั่นใจนโยบาย "หาดใหญ่แซนด์บ็อกซ์" จะทำให้เมืองหาดใหญ่เป็นศูนย์เศรษฐกิจการเงิน โดยส่งนิพัฒน์ อุดมอักษร เป็น ส.ส.เขต 2
วันนี้ (28 เม.ย.) หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งทีมเศรษฐกิจที่นำโดย ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ มาพบกับนักธุรกิจใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แถลงนโยบาย "หาดใหญ่แซนด์บ็อกซ์" ซึ่งเป็นการยกฐานะของ อ.หาดใหญ่ให้เป็นศูนย์การเงินในเอเชีย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการสร้างงาน สร้างเงิน สร้างชาติ เป็นการพัฒนาทั้งระบบของพื้นที่ภาคใต้ และปลายด้ามขวาน เป็นการเปลี่ยนอนาคตของภาคใต้ให้เป็นเมืองเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน การขนส่ง การคมนาคมแบบครบวงจร เช่น โครงการ โครงข่ายคมนาคม ทั้งในเรื่องของ มอเตอร์เวย์ และโมโนเรลนั้น
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาหาดใหญ่ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเงิน การท่องเที่ยว ที่ไม่ได้เพียงเชื่อมโยงทั่วประเทศเท่านั้น แต่เป็นการเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินทั่วภูมิภาคในเอเชีย ซึ่งนโยบายหาดใหญ่แซนด์บ็อกซ์จะก่อให้เกิดการพัฒนาที่ประชาชนทุกสาขาอาชีพได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง เพราะจะมีการจ้างงานจากโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ดังนั้น ในเขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคจึงส่งนายนิพัฒน์ อุดมอักษร เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการทำธุรกิจ เป็นนายกสมาคมเอสเอ็มอีของ จ.สงขลา เคยทำหน้าที่เลขานุการของนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ที่ทำแผนพัฒนาจังหวัดสงขลาด้วยกัน ดังนั้น จึงมั่นใจว่านายนิพัฒน์ จะเป็นตัวแทนของพรรคในการพัฒนาเมืองหาดใหญ่ให้เป็นไปตามนโยบายของพรรคในเรื่องของหาดใหญ่แซนด์บ็อกซ์ เพราะเติบโตมาจากการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว
"ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคจึงขอให้พี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 2 สงขลาสนับสนุนนายนิพัฒน์ ให้เป็น ส.ส.ของเขต 2 สงขลา เพื่อที่จะได้เป็นตัวแทนในการพัฒนาเมืองหาดใหญ่ให้เจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางของภาคใต้ในการเชื่อมโยงประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชาธิปัตย์ มีการแถลงข่าวเรื่อง "หาดใหญ่แซนด์บ็อกซ์" ซึ่งมีนักธุรกิจให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟัง และซักถามถึงรายละเอียดเป็นจำนวนมาก ทำให้คะแนนนิยมของพรรค และของผู้สมัครเขต 2 สงขลา นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยคะแนนของนายนิพัฒน์ มีกระแสขึ้นมาเป็นอันดับ 1 โดยมีนายศราตรา ศรีปาน พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายจูรี นุ่มแก้ว จากพรรคพัฒนากล้าตามมาติดๆ