ศูนย์ข่าวภาคใต้ - "ทวี" ชี้ทางรอดของประเทศคือ รัฐสวัสดิการเท่านั้น ยก "ประชาชาติ" มีนโยบายรัฐสวัสดิการที่ชัดเจน ดูแลประชาชนทุกคน และการเปลี่ยนประเทศต้องพัฒนาที่การศึกษา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้กล่าวกับประชาชนในการช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการลงพื้นที่พบปะประชาชนว่า การที่จะฉุดประเทศไทยให้ขึ้นจากหลุมดำต้องแก้ด้วยการสร้างรัฐสวัสดิการให้เกิดขึ้น รัฐสวัสดิการไม่ใช่เรื่องของประชานิยม แต่เป็นการสร้างความเท่าเทียมในสังคม ในการดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะวันนี้ เศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ประชาชนได้รับผลกระทบในทุกด้าน โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ซึ่งต้องแก้ด้วยการให้สวัสดิการแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
"ในส่วนของพรรคประชาชาติมีนโยบายรัฐสวัสดิการที่ชัดเจน ดูแลประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติพันธุ์ ทุกศาสนา ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเชิงตะกอน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความมั่นคงในครอบครัว" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติยังให้ความสำคัญเรื่องของการศึกษา เพราะการศึกษาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีผลมากที่สุดกับการพัฒนาประเทศ ทุกคนต้องได้รับการศึกษาที่เท่าเทียม รัฐต้องเป็นผู้จัดสวัสดิการการศึกษา ใครต้องการเรียน ต้องได้เรียน คนไม่มีเงินก็ต้องได้เรียน ตั้งแต่อนุบาล จนถึงปริญญาตรี จะไม่มีใครถูกให้ออกจากโรงเรียนเพราะไม่มีเงิน และต้องไม่มีการกู้เงินเพื่อการเล่าเรียนอีกต่อไป
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้พื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้คือฐานที่มั่นของพรรคประชาชาติ ซึ่งจากโพลของสำนักข่าวต่างๆ และโพลที่พรรคสำรวจคะแนนนิยมของประชาชนใน 3 จังหวัด พบว่า มีผลที่ใกล้เคียงกัน คือพรรคประชาชาติจะได้ ส.ส.ที่ชัดเจนจำนวน 6 ที่นั่ง และอยู่ในเขตที่ต้องแย่งชิงอีก 4 ที่นั่ง ซึ่งใกล้เคียงกับที่พรรควางเป้าหมายไว้คืน 10 ที่นั่งขึ้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส มี ส.ส.เขตได้ 13 คน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคประชาชาติ มี ส.ส.เขต 6 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 1 ที่นั่ง และพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง ถ้าในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามโพล คือ ประชาชาติ 10 ที่นั่ง จะเหลือเพียง 3 ที่นั่งให้พรรคต่างๆ ได้แย่งชิงกัน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้กล่าวกับประชาชนในการช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการลงพื้นที่พบปะประชาชนว่า การที่จะฉุดประเทศไทยให้ขึ้นจากหลุมดำต้องแก้ด้วยการสร้างรัฐสวัสดิการให้เกิดขึ้น รัฐสวัสดิการไม่ใช่เรื่องของประชานิยม แต่เป็นการสร้างความเท่าเทียมในสังคม ในการดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะวันนี้ เศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ประชาชนได้รับผลกระทบในทุกด้าน โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ซึ่งต้องแก้ด้วยการให้สวัสดิการแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
"ในส่วนของพรรคประชาชาติมีนโยบายรัฐสวัสดิการที่ชัดเจน ดูแลประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติพันธุ์ ทุกศาสนา ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเชิงตะกอน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความมั่นคงในครอบครัว" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติยังให้ความสำคัญเรื่องของการศึกษา เพราะการศึกษาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีผลมากที่สุดกับการพัฒนาประเทศ ทุกคนต้องได้รับการศึกษาที่เท่าเทียม รัฐต้องเป็นผู้จัดสวัสดิการการศึกษา ใครต้องการเรียน ต้องได้เรียน คนไม่มีเงินก็ต้องได้เรียน ตั้งแต่อนุบาล จนถึงปริญญาตรี จะไม่มีใครถูกให้ออกจากโรงเรียนเพราะไม่มีเงิน และต้องไม่มีการกู้เงินเพื่อการเล่าเรียนอีกต่อไป
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้พื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้คือฐานที่มั่นของพรรคประชาชาติ ซึ่งจากโพลของสำนักข่าวต่างๆ และโพลที่พรรคสำรวจคะแนนนิยมของประชาชนใน 3 จังหวัด พบว่า มีผลที่ใกล้เคียงกัน คือพรรคประชาชาติจะได้ ส.ส.ที่ชัดเจนจำนวน 6 ที่นั่ง และอยู่ในเขตที่ต้องแย่งชิงอีก 4 ที่นั่ง ซึ่งใกล้เคียงกับที่พรรควางเป้าหมายไว้คืน 10 ที่นั่งขึ้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส มี ส.ส.เขตได้ 13 คน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคประชาชาติ มี ส.ส.เขต 6 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 1 ที่นั่ง และพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง ถ้าในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามโพล คือ ประชาชาติ 10 ที่นั่ง จะเหลือเพียง 3 ที่นั่งให้พรรคต่างๆ ได้แย่งชิงกัน