วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเกาะลันตา จ.กระบี่ พาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยว ที่ทุกคนต้องว้าวกับความสวยงามตามธรรมชาติของท้องทะเลเกาะลันตา ไปนั่งเรือหางยาวชมเกาะแก่งในอุทยานแห่งชาติเกาะลันตา นั่งเรือแจวฟังเสียงพายกระทบน้ำในบรรยากาศที่เงียบสงบยามรุ่งอรุณ ไปอาบแสงแรกของวัน กับวิสาหกิจชุมชนหยี่เพ็ง เดินเล่นชิลชิล หรือจะหาซีฟูดอร่อยๆ กินกันที่ย่านเมืองเก่าเกาะลันตา ก็ฟินไปอีกแบบ
ทริปนี้เราเปลี่ยนการเดินจากทางรถยนต์เป็นทางเรือแทน เราออกจากท่าเรือรัษฎา ซึ่งเป็นท่าเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดของภูเก็ต ด้วยเรือสปีดโบ๊ต ในเวลา 08.30 น. เรือพาเราล่องทะเลมาเรื่อยๆ แวะส่งผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ท่าเรือเกาะพีพี จ.กระบี่ ก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังท่าเรือท่าด่าน เกาะลันตา (ท่าเรือโดยสารแห่งแรกของเกาะลันตา ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ เป็นท่าเรือที่สะดวกสบายและปลอดภัย) ถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 10 โมงนิดๆ ถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วมาก แค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เรามาถึงเกาะลันตากันแล้ว
การเดินทางทริปนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ ได้เชิญสื่อมวลชนในภูเก็ต เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะลันตาทางเรือแทนทางรถยนต์ เพื่อต้องการประชาสัมพันธ์การเชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือในฝั่งอันดามัน ที่มีกระบี่เป็นศูนย์กลาง ภูเก็ต-กระบี่-ตรัง ไปจนถึงสตูลและเกาะลังกาวี (ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้) เป็นการสร้างทางเลือกในการเดินทางอีกทางหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว
ขึ้นจากเรือ แวะไปเดินเล่นที่ชุมชนโต๊ะบาหลิว หรือชุมชนชาวเลโบราณแห่งเกาะลันตา เป็นชุมชนเล็กๆ ของกลุ่มชาวไทยใหม่ หรือชาวเลเผ่าอูรักลาโว้ย ที่ตั้งอยู่ติดกับท่าเรือท่าด่าน ที่นี่เราจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวอูรักลาโว้ย ที่ทำอาชีพประมง มีเรือประมงจอดอยู่เรียงราย มีการทำเครื่องมือประมง การแปรรูปสัตว์น้ำที่จับได้มาทำเป็นปลาเค็มตากแห้ง การแกะหอย และอื่นๆ อีกมากมาย
หรือจะใช้บริการนำเที่ยวของชุมชนก็มีบริการพาไปเที่ยวทะเล เช่น ไปดำน้ำดูความน่ารักของปลานีโม่ ที่ “บ้านนีโม่” ที่นี่จะได้เห็นกุ้งสิงโต กุ้งตลก ม้าน้ำ กัลปังหาหลากสีสัน เป็นแบบวันเดย์ทริป หรือจะไปดูพระอาทิตย์ตกยามเย็น พร้อมอาหารปิ้งย่าง ที่หอทรายชมดาว แต่ต้องมาช่วงเดือนแรมนะ หรือจะมาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น พิธีลอยเรือในช่วงเดือน 6 และเดือน 11 และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ที่จัดทริปพานักท่องเที่ยวไปดูความสวยงามของท้องทะเลเกาะลันตา
แต่ถ้าจะใช้บริการแนะนำให้โทร.สอบถามรายละเอียดก่อน เพราะทริปนำเที่ยวที่จะได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติจะมีเรื่องของน้ำขึ้นน้ำลงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย สามารถสอบถามได้ที่ คุณโอ้น 06-5567-4356 หรือ คุณเดียว ทะเลลึก 06-3589-2239
ช่วงบ่ายๆ เรานั่งเรือหางยาวของชาวบ้านออกไปชมความสวยงามตามเกาะแก่งต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา วันนี้เรามีไกด์กิตติมศักดิ์ คุณวิชิต ยะลา นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะลันตา พร้อมด้วย ท่าน ผอ.ททท.กระบี่ คุณอะหมาน หมัดอะดัม นำทุกคนล่องทะเลเกาะลันตาด้วยเรือหัวโทง โดยไปลงเรือกันที่ท่าเรือของชุมชนทุ่งหยี่เพ็ง จุดแรกเราแวะถ่ายรูปกับเกาะเล็กๆ แต่น้ำทะเลใสมาก ชาวบ้านเรียกว่า “เกาะฮุง” ก่อนที่จะล่องเรือต่อไปชมทัศนียภาพหน้าผาหินปูน และเขาลักษณะคล้ายรูปหัวกะโหลก ที่ “เกาะผี” เรือล่องผ่านช่องเขากลางทะเล บรรยากาศดีมาก น้ำทะเลสวย ท้องฟ้าแจ่มใส เก็บภาพกันรัวๆ เลยทีเดียว ก่อนที่จะแวะเดินเล่นและเล่นน้ำที่จุดที่เป็นทะเลแหวกในช่วงเวลาน้ำลง จุดนี้จะเดินเล่น เล่นน้ำ หรือพายแคนนูก็ได้ แต่วันที่เราไปพายแคนนูไม่ได้เพราะสภาพไม่เอื้ออำนวย ที่เกาะตะละเบ็ง
ขึ้นจากทะเล ถ้ายังไม่เหนื่อยแนะนำไปเดินเล่นชิลชิล บรรยากาศดีๆ ที่ย่านเมืองเก่าเกาะลันตา ที่สองข้างถนนมีบ้านเรือนสมัยก่อนมาเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร เลือกซื้อสินค้าหลากหลายชนิด หรือแวะร้านอาหารชิมซีฟูดสดๆ ก็ได้
มาถึงจุดไฮไลต์อีกหนึ่งจุดของเกาะลันตา ที่มาแล้วอยากจะให้ทุกคนได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์สุด Exclusive แต่ต้องบอกก่อนนะว่า ประสบการณ์สุด Exclusive นี้ ต้องตื่นนอนแต่เช้าตรู่มากๆ เพราะกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น. ยังมืดอยู่เลย นั่นคือ นั่งเรือแจวโบราณไปอาบแสงแรกของวัน ที่ชุมชนทุ่งหยี่เพ็ง ด้วยการล่องเรือแจวย้อนยุคแบบโบราณไปอาบแสงแรกที่โลมไล้ท้องฟ้าต่างสีสันกันในแต่ละวัน ฟังเสียงฝีพายที่ค่อยกระทบบนผิวน้ำแบบเบาๆ อย่างเป็นจังหวะ จิบกาแฟแลตะวันที่ค่อยโผล่ขึ้นมาสาดแสงทอง ทำให้มองเห็นความสวยงามของธรรมชาติ อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารเช้า เช่น ข้าวต้มปลา ข้าวเหนียวปลาเค็ม ขนมพื้นเมือง ชาลาเพ็ง หรือกาแฟร้อนๆ เติมความหอมละมุนสู่ร่างกาย ฟินสุดๆ กันไปเลย!
ทริปนี้เราค้างเกาะลันตาคืนเดียว ออกจากเกาะลันตาในช่วงสายๆ ผ่านทางแพขนานยนต์ใช้เวลาไม่นานเพราะวันที่เราไปไม่ต้องรอคิวขึ้นแพ แวะที่ Amataya Wellness อาณาจักรแห่งการบำบัดและฟื้นฟูดูแลสุขภาพ ครบวงจรด้วยน้ำพุร้อนเค็มแห่งแรกของไทย พร้อมเครื่องมือทันสมัยการฟื้นฟูโดยใช้น้าพุร้อนเค็มแบบองค์รวม วารีบำบัดผสมผสานศาสตร์แพทย์แผนไทยวัดโพธิ์ และเวชศาสตร์ฟื้นฟูต้นแบบของศูนย์ ISHII ที่นี่เราได้สัมผัสการแช่น้ำพุร้อนเค็มที่บ่อรวมมีให้แช่กันถึง 3 บ่อทีเดียว
ก่อนที่จะเดินทางไปน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม น้าพุร้อนเค็มแห่งเดียวในประเทศไทย และมีเพียง 2 แห่งในโลก ซึ่งมีถึง 14 บ่อ แช่แล้วมีคุณสมบัติช่วยรักษาโรค เช่น โรคผิวหนัง โรคไขข้อ ช่วยระบบหมุนเวียนโลหิต และบ่อโคลน 1 บ่อ ช่วยบำรุงผิว รักษาสิว ฝ้า
แวะนอนย่านอ่าวนาง 1 คืน ก่อนไปชมสวนดอกไม้ ถ่ายรูปเช็กอินกันที่ “ไร่คุณอารียา” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ไปทางเดียวกับท่าปอมคลองสองน้ำ สวนถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มีมุมให้ถ่ายรูปหลายโซนมากๆ ถ้าถามมุมไหนก็สวยทุกมุมทุกโซน
ก่อนกลับแวะไปไหว้พระขอพร กันที่วัดบางโทง หรือวัดมหาธาตุวชิรมงคล ซึ่งภายในวัดมีองค์พระมหาธาตุเจดีย์ ที่มีความสูงถึง 95 เมตร ถือเป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่สูงที่สุดในภาคใต้ บริเวณรอบๆ พระมหาธาตุจัดตกแต่งสถานที่ให้มีความคล้ายคลึงกับ “พุทธคยา” สถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ใน อ.คยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ภายในองค์พระมหาธาตุตกแต่งด้วยภาพเขียนพุทธประวัติไว้อย่างวิจิตร
ขากลับเรากลับด้วยเรือโดยสารของอ่าวนางปริ๊นเซส ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา เดินทางกลับภูเก็ต เป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้กว่า 300 คน ใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง มาถึงท่าเรือรัษฎาอย่างปลอดภัย
การเดินทางไปท่องเที่ยวกระบี่ หรือ เกาะลันตาครั้งต่อไป ลองเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางมาเป็นทางเรือกันดูนะ ถ้าอยากเดินทางแบบรวดเร็วหน่อยใช้บริการเรือสปีดโบ๊ต แต่ถ้าอยากชิลชิล ล่องไปเรื่อยๆ ก็ต้องเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ มีให้เลือกตามความต้องการของทุกคน