ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านจะนะที่พบลูกจระเข้อยู่ในแอ่งน้ำของนาข้าว ได้ส่งมอบให้ประมงจังหวัดสงขลา คาดมาจากกลุ่มพวกเลี้ยงสัตว์แปลกที่แอบเอามาปล่อยเพราะเลี้ยงไม่ไหว เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นสัตว์อันตรายที่ต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (19 เม.ย.) จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่ ม.8 บ้านศาลาน้ำ ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา ไปพบลูกจระเข้ 1 ตัว ความยาวประมาณ 50 ซม. อยู่แอ่งน้ำในนาข้าวห่างจากหน้าบ้านพักราว 100 เมตร และต่างพากันสงสัยว่ามาได้อย่างไร เนื่องจากไม่มีฟาร์มจระเข้อยู่ในพื้นที่ หรือมีลำคลองที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของจระเข้มาก่อนหน้านี้ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วนั้น
ล่าสุด ที่สำนักงานประมงจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ชาวบ้านได้นำลูกจระเข้ตัวนี้ไปมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดสงขลาแล้ว โดยมี นายยุคล เหมบัณฑิต เจ้าพนักงานประมงอาวุโส (หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง) เป็นผู้รับมอบ และมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงอำเภอจะนะ ร่วมด้วย
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นลูกจระเข้น้ำจืด เพศเมีย อายุไม่ถึง 1 ปี ความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร น้ำหนักตัวกว่า 1 กิโลกรัม และมีลักษณะค่อนข้างอ้วนท้วนสมบูรณ์กว่าจระเข้ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติทั่วไป และหลังจากนี้จะส่งไปศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดสงขลา ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เพื่อทำการอนุบาลเลี้ยงดูต่อไป
นายยุคล เปิดเผยว่า จระเข้ที่พบเบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่ที่พบจระเข้ไม่ได้เป็นแหล่งที่พบจระเข้มาก่อน และลักษณะแอ่งน้ำขนาดเล็กไม่ได้เชื่อมต่อกับคลองสาขาอื่นๆ อีกทั้งไม่มีฟาร์มเลี้ยงที่อยู่ในรัศมีที่จระเข้จะหลุดรอดมาได้ โดยที่มาของจระเข้าตัวนี้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ มาจากกลุ่มพวกชอบเลี้ยงสัตว์แปลกที่อาจจะซื้อลูกจระเข้มาเลี้ยง และเมื่อมันโตขึ้นอาจจะเลี้ยงไม่ไหว หรือเกิดความหวาดกลัวหรืออาจถูกกัด จึงแอบมาปล่อยในพื้นที่แห่งนี้ ลักษณะเหมือนจะกินก็ไม่กล้า จะฆ่าก็สงสาร
ซึ่งการเลี้ยงลูกจระเข้เป็นสัตว์เลี้ยงในตู้กระจกนั้น ปัจจุบันพบว่า มีอยู่จำนวนไม่น้อย และใช้ช่องทางการขนส่งลูกจระเข้มากับพัสดุทางไปรษณีย์ ที่ปัจจุบันมีการขนส่งค่อนข้างรวดเร็วได้รับภายใน 1-2 วัน ซึ่งขอเตือนว่าอย่าทำและผิดกฎหมาย เพราะเป็นสัตว์ที่ต้องอยู่ในการควบคุมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอันตรายและจะมีปัญหาเมื่อเลี้ยงไม่ไหว โดยจะมีการลักลอบเอาไปปล่อยตามแหล่งน้ำ หรือพื้นที่ว่างของชาวบ้าน ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายขึ้นหากจระเข้หลุดรอดออกไป
ส่วนอีกกรณีที่เป็นไปได้คือ มีการลักลอบขนส่งตัวอ่อนลูกจระเข้ผ่านมาทางนี้แล้วตกหล่น หรือแอบปล่อยระหว่างทาง เนื่องจากเป็นหนึ่งในเส้นทางเลี่ยงด่านตรวจความมั่นคงบ้านควนมีด บนถนนสายเอเชียเพื่อเลี่ยงความผิด แต่ความเป็นไปได้น้อยกว่าอย่างแรก
นายยุคล กล่าวด้วยว่า หากชาวบ้านพบจระเข้ หรือสัตว์น้ำที่เข้าข่ายจะมีความอันตราย สามารถติดต่อประสานงานมาได้ที่สำนักงานประมงอำเภอในท้องที่นั้นๆ หรือสำนักงานประมงจังหวัด ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปยังพื้นที่นั้นๆ โดยเร็วที่สุด เพื่อจับหรือหาวิธีการจัดการได้อย่างทันท่วงที