สุราษฎร์ธานี - น้ำมันจากเรือราชา 10 ลอยเกลื่อนขายหาดนางกำ ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ เต้นสั่งดำเนินคดีบริษัทเดินเรือเฟอร์รี่ที่ปล่อยให้น้ำมันลอยเต็มอ่าว ส่งผลกระทบต่อชายหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสิ่งแวดล้อมเป็นบริเวณกว้าง พร้อมเตรียมฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป
จากกรณีเกิดเหตุเรือโดยสารข้ามฟากระหว่างอำเภอดอนสัก ไปอำเภอเกาะสมุย ของบริษัทราชาเฟอรี่ จมลงที่หน้าท่าเรือฝั่งดอนสัก แบบตะแคงข้าง ขณะเกิดเหตุคลื่นลมแรง คาดว่าถูกคลื่นซัดเรือชนกับของแข็งใต้น้ำหน้าท่าเรือโดยสาร ขณะนั้นระดับน้ำหน้าท่าลึกประมาณ 5-6 เมตร ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือจึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดนั้น
ล่าสุด วันนี้ (17 เม.ย.) พบคราบน้ำมันลอยอยู่บริเวณชายหาดและโขดหินหาดนางกำ จำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ทำให้นักท่องเที่ยวรีบทยอยเดินทางกลับ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผอ.ปภ.เขต 11 ปภ.จังหวัด นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เจ้าท่าสาขาสุราษฎร์ธานี นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอดอนสัก พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ดอนสัก ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันสีดำเป็นแนวยาวตลอดแนวชายหาดนางกำยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งคราบน้ำมันดังกล่าวมาจากเรือของ บ.เดินเรือเฟอร์รี่ที่เกิดอุบัติเหตุทำให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมันเตารั่วไหลลงสู่ทะเล และถูกคลื่นลมซัดมาเกยชายฝั่ง ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นบริเวณกว้าง
ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้นำรถตักเจซีบี และรถไถไถคราดตักเอาทรายติดคราบน้ำมันออกไปทิ้งในจุดปลอดภัย พร้อมใช้สารไบโอ หรือสารกำจัดคราบน้ำมันชีวภาพผสมกับน้ำฉีดสลายคราบน้ำมันบริเวณโขดหิน
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้กำชับให้ขจัดคราบน้ำมันให้หมดภายในวันนี้ หากทิ้งข้ามวันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมออกไปเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งการดำเนินการวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชนและส่วนท้องถิ่นที่ออกมาร่วมด้วยช่วยกัน ส่วนการดำเนินคดีได้สั่งการให้เจ้าท่าจังหวัดรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้บริหารบริษัทราชาเฟอร์รี่และดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
ในขณะที่ นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 กล่าวว่า ในส่วนของ ทช.ต้องเฝ้าระวังผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคราบน้ำมันที่อาจส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ และสัตว์น้ำ ปะการัง หญ้าทะเล รวมทั้งโลมาที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้จำนวนหลายสายพันธุ์ และหากพบว่ามีสัตว์ทะเลตายจะเอาสัตว์มาผ่าพิสูจน์ ถ้าพบว่าตายจากคราบน้ำมันเป็นสาเหตุจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ทช.2558 โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ