“อันวาร์ สาและ” 4 สมัยกับความทุ่มเทและยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ปัตตานี - อันวาร์ สาและ เผย 4 สมัยกับความทุ่มเท และยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอรักษาแชมป์สมัยที่ 5 แม้บิ๊กพรรคเก่าประกาศโค่นอันวาร์

เขตเลือกตั้งที่ 5 ถือเป็นเขตใหม่ป้ายแดงของจังหวัดปัตตานี และเป็นเขตเลือกตั้งที่ถือว่าดุเดือดอีก 1 เขต ที่หลายคนเฝ้าจับตา สำหรับเขต 5 มีพื้นที่อำเภอยะหริ่ง กับอำเภอมายอ ที่มีนายอันวาร์ สาและ เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐเป็นตัวเต็งที่ 1 และยังมั่นใจรักษาแชมป์ไว้ได้ จากที่เป็น ส.ส.นานถึง 4 สมัย ฐานเสียงยังแน่นปึ้ก คนสนับสนุนไม่ปล่อยให้พรรคอื่นแน่นอน

ครั้งนี้หลังออกจากบ้านเก่าประชาธิปัตย์แล้ว ยังมีเสียงจากคนใหญ่พรรคเก่าที่เคยอยู่ประกาศลั่นว่า ต้องโค่นอันวาร์ให้ได้ ก็ฟังดูแล้วคงยากน่าดู เพราะตลอดเส้นทางการเมืองของ นายอันวาร์ 4 สมัยถือว่าที่ผ่านมามีพลังบวกทุกสมัย และทุกสมัยจะมีกระแสว่า “ตก” แต่ทุกครั้ง คือ “ลอยลำ” ทุกสมัย

ครั้งนี้ก็เช่นกัน คนเบื้องหลังหลายคนของ อันวาร์ ยังคงแน่นและไม่ยอมให้ใครแย่งเก้าอี้ ส.ส.เขต 5 คนแรกแน่นอน เพราะทุกวันที่ผ่านมา อันวาร์ และทีมงานเดินลุยพื้นที่พบปะพี่น้องทุกสาขาอาชีพ ทุกกลุ่มทุกศาสนา ย้ำเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง การศึกษา ยกเลิก พ.ร.ก.ให้ชายแดนใต้กลับมาสันติสุข ภายใต้พหุวัฒนธรรม “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” จึงมั่นใจว่า “ต้องเป็น ส.ส.สมัยที่ 5” อีกครั้ง

นายอันวาร์ สาและ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดปัตตานี เขต 5 เบอร์ 2 เปิดเผยว่า ตนเป็นคนทุ่มเท จนที่ผ่านมาถึงขั้นต้องมีความขัดแย้งกับผู้ใหญ่คนที่เป็นผู้นำในพรรคเดียวกัน (พรรคประชาธิปัตย์) หรือกระทั่งคนในฝ่ายรัฐบาล ซึ่งถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและพี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความต้องการ และตนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตนไม่กลัว และจะทำหน้าที่สิ่งที่ถูกต้องและยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพี่น้องชาว จ.ปัตตานี

“ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ผลักดันในเรื่องการแก้ปัญหาความไม่สงบความรุนแรงและการแก้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก และ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นความกดดันของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะมีการบังคับใช้กฎหมายเป็นระยะยาวนานกว่า 18 ปี และสิ่งที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความต้องการ คือ ต้องมีความสอดคล้องกับนโยบายพรรคโดยเฉพาะ การแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีความสุข ไม่ว่าชีวิตความเป็นอยู่ และปัญหาเศรษฐกิจ แต่ถ้าปัญหาต่างๆ เหล่านี้ในพื้นที่ยังไม่ได้รับแก้ไข และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เจอปัญหาซ้ำซ้อน เช่น ความไม่สงบ เศรษฐกิจ ปากท้องก็ยังแก้ไม่ได้ และยังใช้ชีวิตที่ลำบาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเร็วและเร่งด่วนที่สุด”

นายอันวาร์ ยังบอกอีกว่า สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้เป็นพื้นที่พหุวัฒนธรรม มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา อัตลักษณ์ มีทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธ จีนและผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม จึงต้องมีความเข้าใจพื้นที่ ต้องมีความไว้วางใจระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน และประชาชนต่อประชาชน และต้องรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความไม่สงบต้องเปิดเวทีในการพูดคุย เปิดเวทีให้กว้าง และพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง การแก้ไขปัญหาด้วยตนเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีบทบาท หรือตัวแทนในการสร้างสันติสุขเจรจาพูดคุย กลุ่มผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นกลุ่มผู้นำศาสนา โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องสร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้กำหนด ตัดสิน และมีสวนร่วมในการแก้ปัญหา

“ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลมีความเข้าใจปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และตนเชื่อว่าปัญหาความไม่สงบ ความรุนแรงในพื้นที่น่าจะแก้ปัญหาได้ไม่ยาก”

นายอันวาร์ เผยอีกว่า ตนมีความทุ่มเท และมุ่งมั่นมาก และสิ่งที่เป็นคุณสมบัติของ ส.ส.ในการทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนต้องมี คือ 1.วิสัยทัศน์ที่ดี ต้องมีความคิดที่รอบคอบ 2.ต้องมีใจที่มุ่งมั่น และกล้าหาญ และ 3.ต้องมีศิลปะในการสื่อสารให้พี่น้องประชาชน ซึ่งมีความจำเป็นที่ผู้แทนราษฎรต้องมี

และเมื่อเข้าไปในสภาแล้ว ส.ส.ต้องทำหน้าที่แสดงบทบาทในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็นการต่อสู้และทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด