สตูล - ทายาทรุ่นที่ 4 สืบทอดขนมพื้นเมืองโบราณ “บุหงาบูดะ” และอีกมากกว่า 20 ชนิด หาเลี้ยงครอบครัว ได้สูตรมาจากบรรพบุรุษอายุนานกว่า 38 ปี
ใกล้เทศกาลฮารีรายาของพี่น้องมุสลิม หลายครัวเรือนต่างเร่งทำขนม เช่นเดียวกันกับที่ชุมชนทุ่งเฉลิมสุข ซอย 17 ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ภายใน “ร้านขนมบ้านก๊ะจิ๊ก&หวาชา” ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 10/15 ทุกคนในครอบครัวกำลังเร่งมือขะมักเขม้นในการทำขนมพื้นเมือง โดยเฉพาะขนมบุหงาบุดะ ขนมพื้นเมืองที่ทำค่อนข้างยาก และต้องใช้ความชำนาญการเริ่มตั้งแต่การร่อนแป้ง การห่อขนมให้ที่สวยงามและมีรสชาติอร่อย เพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้าที่มีออเดอร์เข้ามาก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลฮารีรายา
นางมาเรีย นาคบรรพต อายุ 30 ปี ทายาทรุ่นที่ 4 ของการทำขนมพื้นเมือง บอกว่า ขนมบุหงาบูดะทำค่อนข้างยากเนื่องจากมีเพียงตนคนเดียวที่ทำอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากขั้นตอนที่พิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่การร่อนแป้งลงไปไม่ให้สุกจนเกินไปเพราะจะใช้ใยของแป้งขนมในการห่อเท่านั้น สามารถทำได้ครั้งละ 1 ชิ้น โดยพัฒนาจากเตาถ่านมาเป็นเตาแก๊สควบคุมความร้อนได้
สำหรับส่วนผสมของขนมบุหงาบูดะ ประกอบด้วย แป้งข้าวเหนียว ผสมน้ำตาล เกลือ น้ำ ส่วนไส้ใช้มะพร้าวทึนทึกผัดกับน้ำตาล อบด้วยดอกมะลิ ใส่สีผสมอาหารให้สวยงาม
ด้าน นางอิชริยา นาคพรรพต อายุ 62 ปี บอกว่า ได้สูตรการทำขนมมาจากบรรพบุรุษ ส่งต่อให้ลูกสาวเป็นรุ่นที่ 4 โดยยึดอาชีพทำขนมพื้นเมืองเลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 38 ปี ทำทั้งขนมสดและขนมแห้งมากกว่า 20 ชนิด นอกจากนี้ ยังรับเป็นวิทยากรสอนรับทำอาหารเบรก ซึ่งเห็นว่าขนมพื้นเมืองเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งนับวันหากินได้ยาก หลายคนโหยหาที่จะกินและอยากทำเป็น
โดยส่วนใหญ่ขนมนี้จะหารับประทานได้ในช่วงเทศกาลฮารีรายา หรืองานบุญของพี่น้องมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นขนมบุหงาบูดะสีสันต์สวยงาม ขนมกลีบลำดวน ขนมมาหมอดหรือไข่เต่า โดยเฉพาะ 10 วันหลังใกล้เทศกาลฮารีรายา จะมีออเดอร์ก่อนโควิด-19 ระบาดสูงสุดขนมสด 20 ถาด รายได้ 4,000-5,000 บาทต่อวัน ขนมแห้ง 500 กล่อง มาเทศกาลครั้งนี้ยอดออเดอร์เข้า 300 กล่องแล้ว
ทางบ้านขนมจัดจำหน่ายในราคากล่องละ 40 บาท รับบริการส่งทั่วไทย ขนมสามารถอยู่ได้ 30 วัน และยืนยันในวัตถุดิบมีคุณภาพ ไม่ใส่สารกันบูด สนใจสามารถติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “Maria Nbpt” หรือทางโทรศัพท์ 08-0545 5196 บ้านขนมกะจิ๊ก & หวาชา
