กระบี่ - กระบี่พร้อมเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชื่อมโยงทางเรือฝั่งทะเลอันดามัน เตรียมเปิดเส้นทางเดินเรือท่องเที่ยวเชื่อมโยงอันดามัน-เกาะลังกาวี มาเลเซีย ดึงนักท่องเที่ยวเข้ากระบี่ พังงา ภูเก็ตเพิ่ม ด้าน ผอ.ททท.กระบี่ เผยเดือน ก.พ.กระบี่มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2 พันล้าน
นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวนาง ร่วมแถลงข่าวการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงอันดามันโดยทางเรือของจังหวัดกระบี่ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความพร้อมการเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชื่อมโยงโดยทางเรือในจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่จังหวัดกระบี่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี บนเรือ Aonang Princess 9 หน้าหาดไร่เล จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ความสวยงามและชื่อเสียงของทะเลกระบี่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เช่น เกาะพีพี เกาะลันตา อ่าวนาง หาดไร่เล เกาะห้อง ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวที่กระบี่ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีปัจจัยเอื้ออำนวย เช่น ที่พัก อาหาร ธรรมชาติที่สวยงาม มิตรไมตรีของผู้คน และความสะดวกในการเดินทางเข้าถึงทั้งทางรถยนต์ เครื่องบิน เรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางเดินเรือที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเชื่อมต่อกันในพื้นที่อันดามัน ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล
จังหวัดกระบี่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยเป็นลำดับต้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เช่น สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ตำรวจน้ำ อุทยานแห่งชาติทางทะเล ผู้ประกอบการนำเที่ยว ชมรมเรือต่างๆ ยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะบุคลากรที่ให้บริการทางเรือ เน้นย้ำความสวยงามคู่ความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว และความประทับใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่กระบี่
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. กล่าวว่า สำหรับการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว นอกจากกระตุ้นให้คนต่างภูมิภาคมาเที่ยวใต้ด้วยการส่งมอบประสบการณ์ครึ่งหนึ่งในชีวิตต้องมาเที่ยวภาคใต้แล้ว ยังมีแผนส่งเสริม “ใต้เที่ยวใต้” ข้อมูลจากโครงการสํารวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของชาวไทย ปี2564 ของ ททท. คนใต้นิยมเที่ยวในภูมิภาค 82.21% ยกจุดแข็งเป็นจุดขายเที่ยวใต้ “Sea Sand Sun แดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว” ด้วยศักยภาพของทะเลอ่าวไทยและอันดามันที่เป็นแม่เหล็กและสร้างรายได้อันดับต้นๆ ให้ประเทศไทย ตอกย้ำความสวยงามของทะเลในภาคใต้จากการจัดอับดับของเว็บไซต์ World beach guide ของประเทศอังกฤษ ที่ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับในหัวข้อ “100 อันดับ ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2566” อันดับ 1 คือ เกาะกระดาน จ.ตรัง อันดับ 9 หาดไร่เล จ.กระบี่ อันดับ 18 หาดฟรีด้อม จ.ภูเก็ต อันดับ 21 แหลมหาด เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา และอันดับ 44 อ่าวโตนด เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในภาคใต้
สำหรับจังหวัดกระบี่ นอกจากทะเลที่มีความสวยงามแล้ว ยังมีเส้นทางการเดินเรือที่เชื่อมโยงในจังหวัดอันดามัน คือภูเก็ต เกาะพีพี/เกาะลันตา/อ่าวนาง/ไร่เล/ พังงาจากเกาะยาวน้อย/เกาะยาวใหญ่ ตรัง จากเกาะมุก/เกาะกระดาน-เกาะไหง สตูล จากเกาะหลีเป๊ะ/เกาะบุโหลน-เกาะลันตา ซึ่งสะดวกและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือที่มีภูมิทัศน์สวยงาม เช่น ภูเขาหินปูน ป่า เกาะต่างๆ อีกทั้งให้บริการตลอดทั้งปี (ยกเว้นจากเส้นทางเกาะหลีเป๊ะ-ลันตา ที่ให้บริการเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว) โดย ททท. จะหยิบยกไปประชาสัมพันธ์และเสนอขายเพื่อให้เกิดการกระจายตัวการเดินทางไปท่องเที่ยวพื้นที่ต่างๆ อย่างสมดุลและต่อเนื่องตลอดทั้งปี นอกเหนือไปจากการเสนอขาย เที่ยวใต้ 14 สาย 14 เมนูประสบการณ์พร้อมเสิร์ฟใน 14 จังหวัดภาคใต้ที่จะนำกิจกรรม Highlight การท่องเที่ยวในแต่ละเดือนของแต่ละจังหวัด เพื่อให้ 365 วันเที่ยวใต้หรอยได้ทุกเดือนอีกด้วย
ด้าน นายอะหมาด หมัดอาดัม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ เปิดเผยว่า จังหวัดกระบี่ได้จัดให้มีการแถลงข่าวบนเรืออ่าวนางปริ้นเซส 9 ซึ่งเป็นเรือโดยสารท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการในพื้นที่หน้าหาดอ่าวไร่เล เพื่อเตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงอันดามันโดยสารทางเรือ ในเส้นทางจากจังหวัดภูเก็ตมาจังหวัดกระบี่ ไปเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล และไปสิ้นสุดที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในพื้นที่อันดามัน
โดยจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย.2566 นี้ ซึ่งการเดินทางโดยเรือโดยสารจะเป็นการช่วยลดระยะเวลาการเดินทางโดยรถยนต์ และลดการแออัดของสนามบิน โดยสามารถใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากจังหวัดภูเก็ตมาจังหวัดกระบี่ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้จังหวัดกระบี่กลับมามีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวให้มีความพร้อมเช่นเดียวกับก่อนสถานการณ์ดังกล่าว ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าจังหวัดกระบี่กว่า 6.8 ล้านคน
ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ ยังกล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ว่า ในเดือน ก.พ.2566 นี้ มีนักท่องเที่ยวเข้ามากระบี่ ทั้งหมด 288,357 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 168,938 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 119,419 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าประมาณ 245,504 คนนั้น อัตราเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ 75.52% ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนจากการท่องเที่ยวโดยรวมอยู่ที่ 2,255.87 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวคนไทย 1,601.27 ล้านบาท รายได้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 654.60 ล้านบาท หากเทียบกับเดือน ม.ค.2566 จังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 42,853 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น 35,120 คน คิดเป็น 41.66% ซึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 184.18 ล้านบาท คิดเป็น 39.00% หากในอนาคตเที่ยวบินต่างประเทศที่เข้ามา จ.กระบี่ หรือประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวนาง กล่าวว่า จังหวัดกระบี่นอกจากทะเลมีความสวยงามแล้ว ยังมีเส้นทางการเดินเรือที่เชื่อมโยงในจังหวัดอันดามัน คือ ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล และสามารถนั่งเรือต่อไปลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะได้รับความนิยมและมีความสะดวกในการเดินทาง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมากยิ่งขึ้น เพราะระหว่างการเดินทางจะมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะต่างๆ ในทะเลอันดามัน เช่น ภูเขาหินปูน ป่าเกาะต่างๆ ชายหาดกลางท้องทะเล
เส้นทางนี้สามารถเปิดให้บริการได้ตลอดทั้งปี ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวหาดอ่าวนาง ได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็น บริษัท อ่าวนางปริ้นเซส จำกัด ดำเนินการสร้างเรือขนาดใหญ่สำหรับเดินทางในระยะไกล โดยเรือมีความยาว 48 เมตร กว้าง 7 เมตร สูง 14 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 350 คน เรือมีความเร็ว 18 ไมล์ทะเล ใช้เวลาเดินทางเส้นทางจังหวัดภูเก็ตมาจังหวัดกระบี่ไปเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล และไปสิ้นสุดที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย 6-7 ชั่วโมง ซึ่งในเดือน พ.ย.2566 นี้ เริ่มทำการวิ่งจากภูเก็ตไปเกาะลังกาวี 1 เที่ยว และจากเกาะลังกาวีมาภูเก็ต 1 เที่ยว เรือออกเดินทางตั้งแต่เวลา 08.00 น.