พัทลุง - บริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด ผู้ชนะการประมูลในการสัมปทานรังนกอีแอ่นในพื้นที่ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท จากกรณีมีกลุ่มคนเข้าไปขโมยรังนกและเผาทำลายรังจนได้รับความเสียหายหนัก
วันนี้ (11 เม.ย.) จากกรณีที่บริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลในการสัมปทานรังนกอีแอ่นในพื้นที่ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เป็นเงินจำนวน 400 ล้านบาท หลังจากที่มีการประมูลกันถึง 9 ครั้ง และในช่วงว่างเว้นจากการสัมปทานรังนกนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือนเข้าไปขโมยรังนก ทำลายทรัพยากรรังนกจนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ตัวแทนบริษัทสยามเนสท์ที่ชนะการประมูล คณะกรรมการรังนกอีแอ่นพัทลุง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และกลุ่มสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่เกาะรังนกเพื่อรับมอบเกาะจากทางคณะกรรมการรังนก
ปรากฏว่าในถ้ำรังนกขนาดใหญ่ จำนวน 7 ถ้ำรังนกได้ถูกขโมยจนเกลี้ยงถ้ำ และพบซากลูกนกตกลงมาตายจากรังเป็นจำนวนมากพร้อมทั้งมีการเผาทำลายถ้ำ และส่วนการเก็บรังนกของบริษัทฯ นั้นได้มีปริมาณลดน้อยลงมาก จนทางบริษัทสยามเนสท์ฯ ได้ฟ้องศาลปกครองสงขลา เพื่อเรียกค่าเสียหายจากคณะกรรมการรังนกจังหวัดพัทลุง เป็นเงิน 500 ล้านบาท แต่ทางฝ่ายเลขานุการกรรมการจัดเก็บอากรภาษีรังนกอีแอ่นพัทลุง แถลงต่อศาลว่าที่ผ่านมายังไม่มีการขโมยรังนก ก่อนให้ฝ่ายเลขาฯ กลับไปหาข้อมูลใหม่ โดยจะมีการนัดไต่สวนสอบพยานหลักฐานเพิ่ม ในวันที่ 25 เมษายน 66 ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 เมษายน 2566 ที่ห้องประชุมสภา อบจ.พัทลุง นางนิศากร วิศิษฐ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ได้เป็นประธานในการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนของบริษัทสยามเนสท์ฯ กับคณะกรรมการรังนก และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องความเสียหายของรังนก โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพในการประชุมแต่อย่างใด และมีการห้ามมิให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟังการประชุมโดยเด็ดขาดเพราะถือเป็นความลับของทางราชการ แต่การพูดคุยกันในครั้งนี้ไม่สามารถยุติเรื่องการฟ้องร้องได้ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมคณะกรรมการได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราวของการประชุม
ทางด้าน นายพิพัฒน์ อมรรัตพงศ์ ทนายความของบริษัทสยามเนสท์ฯ กล่าวว่า การเรียกเงินค่าเสียหายจากคณะกรรมการจัดเก็บอากรภาษีรังนกอีแอ่นพัทลุง จำนวน 500 ล้านบาทนั้น ทางคณะกรรมการรังนกจะมีปัญหาในการจ่ายค่าเสียหายให้ทางบริษัทฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากในขณะนี้เงินอากรรังนกได้จัดสรรไปให้ท้องถิ่นแล้ว ทางบริษัทฯ จึงได้ยื่นข้อเสนอให้มีการขยายระยะเวลาการสัมปทานจาก 5 ปี ไปเป็น 15 ปี โดยจะเพิ่มค่าอากรเพิ่มให้อีก 500 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 900 ล้านบาท อันจะส่งผลให้จังหวัดพัทลุงจะได้รับเงินอากรรังนกงวดละ 60 ล้านบาท ในส่วนของบริษัทฯ จะได้มีการเพิ่มจำนวนพันธุ์นกอีแอ่นและอนุรักษ์นกอีแอ่นให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันจะก่อให้เกิดผลดีกันทั้ง 2 ฝ่าย
และเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดอีกด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าจำนวนรังนกที่เก็บได้ในการสัมปทานรังนกของบริษัทนั้นปริมาณรังนกได้หายไปมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นประจักษ์ด้วยพยานหลักฐานอยู่แล้ว เพราะการเก็บรังนกในแต่ละครั้งมีฝ่ายเกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบและชั่งน้ำหนักด้วยทุกครั้ง ซึ่งกว่าจะให้สถานการณ์รังนกหมู่เกาะสี่ เกาะห้า อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เข้าสู่สภาพปกติจะต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี