สุราษฎร์ธานี - พบศพลูกชาย "ด.ต.อรรถพร" ในรถที่ใช้หลบหนี ถูกนำมาจอดทิ้งไว้หน้างานศพ "นายธรรมรัตน์" ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะร่วมก่อเหตุยิงผู้ใหญ่รงค์ ชายปริศนาสั่งญาติให้ช่วยจัดงานศพให้ "หลาน" ด้วย
สำหรับความคืบหน้ากรณี ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม M16 และอาวุธปืนลูกซองยิงถล่มบ้านพักในสวนปาล์มเลขที่ 91 หมู่ที่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม และมีการยิงต่อสู้กัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ มีนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ เจ้าของบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้าน นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือแตง อายุ 49 ปี ภรรยา นายพรศักดิ์ เพชรชู และนายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปี พี่ชาย ด.ต.อรรถพร
ล่าสุด ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อนุมัติหมายจับ 2 คนร้าย มีนายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม และ ด.ต.อรรถพร โดย พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ ด.ต.อรรถพร ออกจากราชการไว้ก่อน
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 9 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กร 3948 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี วิทยุด่วนให้เฝ้าระวังตรวจสอบและสกัดจับเนื่องจากเป็นรถเก๋งที่ ด.ต.อรรถพร วิเชียร พร้อมพวกใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ ถูกนำมาจอดใต้ต้นไม้ ภายในวัดไกรสรเขตราราม ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของนายธรรมรัตน์ หรือวัฒน์ วิเชียร 1 ในผู้ร่วมก่อเหตุยิงถล่มอดีตผู้ใหญ่บ้าน แต่ถูกยิงสวนดับคาที่เกิดเหตุ
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านตาขุน พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจและจัดเก็บพยานหลักฐาน ในเบื้องต้นทราบว่า ศพดังกล่าวชื่อ นายบาส (ไม่ทราบชื่อจริง) วิเชียร อายุประมาณ 22 ปี เป็นลูกชายของ ด.ต.อรรถพร วิเชียร ที่เกิดกับภรรยาคนแรก โดยสภาพศพอยู่เบาะด้านข้างคนขับ เบาะถูกปรับเอนนอนคลุมด้วยผ้าขาวม้าลายขาวดำ ที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดตราสังด้วยสายสิญจน์ มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณขมับขวา ตรวจสอบภายในตัวรถพบกระสุนปืนไม่ทราบขนาดที่ยังไม่ได้ยิงตกอยู่พื้นรถจำนวน 1 นัด
จากการสอบสวนในเบื้องลึกพบว่า ผู้ใหญ่รงค์ มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับบุคคลหนึ่งเรื่องที่ดินบนเขาหินพัด ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอคีรีรัฐนิคม จึงเป็นเหตุให้มีการลอบสังหารมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
ประกอบกับนายมานะ ว่างงาน ผู้ร่วมก่อเหตุเป็นมือปืนรับจ้างระดับพระกาฬคนหนึ่ง และเพิ่งออกจากคุกมา จึงไม่น่าเชื่อว่าสาเหตุปมสังหารมาจากความขัดแย้งในเรื่องพ่อบังคับลูกสาวให้เลิกกับผัว
บ้านที่มาร่วมงานศพนายธรรมรัตน์ ได้ข้อมูลว่าช่วงเวลาประมาณเกือบ 21.00 น. ได้มีชายปริศนาเดินลงมาศาลาที่จัดงานศพ แล้วบอกญาติในงานว่า ฝากจัดงานศพให้หลานด้วย พร้อมทั้งบอกว่าหลานอยู่ในรถ จากนั้นได้หายตัวไป ซึ่งคาดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะเป็น ด.ต.อรรถพร
แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะทำหน้าที่ขับรถให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปยิงถล่มอดีตผู้ใหญ่บ้าน แต่มีการยิงปะทะกันผู้เสียชีวิตไม่ได้ลงจากรถ อาจจะถูกกระสุนปืนฝ่ายผู้ใหญ่บ้านยิงทะลุรถเข้ามาทำให้เสียชีวิต หรืออาจถูกมือมืดฆ่าปิดปากตัดตอน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีซับซ้อน
