ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คืบหน้ากรณีเจ้าของเนอสเซอรี่ทำร้ายเด็ก ล่าสุด มีผู้ปกครองเข้าแจ้งความเพิ่มอีก 4 คน ด้านพี่เลี้ยงเครียดตกงานวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย
วันนี้ (9 เม.ย.) ความคืบหน้ากรณีเจ้าของเนอสเซอรี่แห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำร้ายเด็ก โดยเฉพาะกับเด็กบางคนที่ชอบร้องไห้พูดไม่ฟัง ทั้งใช้วิธีนั่งทับเด็ก เทนมราดหัว และบางคนถึงขั้นมีรอยบวมช้ำที่ตา และเริ่มมีผู้ปกครองของเด็กเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว ล่าสุด ทางผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความเพิ่มอีก 4 คน โดยทางพนักงานสอบสวนได้ให้ทุกคนลงชื่อและเบอร์ติดต่อกลับไว้ และจะเรียกแต่ละคนมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่ทางด้านพนักงานที่ทำงานอยู่เนอสเซอรี่ดังกล่าววอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย เนื่องจากพวกตนตกงานทันทีหลังมีเรื่อง และเนอสเซอรี่ถูกสั่งปิด และบางคนยังกังวลว่าไปสมัครงานที่ไหนแล้วไม่มีคนรับเข้าทำงาน หากรู้ว่าเคยทำงานที่เนอสเซอรี่ดังกล่าว
ทั้งนี้ อดีตพนักงานยังได้แฉเพิ่มเติมอีกว่า ภาพลักษณ์ภายนอกของเนอสเซอรี่ดูดีแต่ข้างนั้นไม่คุ้มกับค่าเลี้ยงดู เช่น เรื่องการกิน เช้ามาเด็กจะกินข้าวต้มโจ๊กเดิมๆ และตอนเที่ยงจะเป็นกับข้าว 2 อย่างไม่มีผลไม้ ส่วนตอนบ่ายนั้นเป็นแค่ขนมปี๊บธรรมดา ส่วนเจ้าของนั้นมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ มีอาการหงุดหงิดกับพนักงานหรือเด็ก หากเด็กคนนั้นงอแง หรือเด็กคนนั้นไม่ยอมทำกิจกรรมต่างๆ จะหิ้วไปมุมอับ ส่วนมากแล้วจะลากเข้าห้องพยาบาลและบางครั้งปิดประตูขังเด็ก และมีเด็ก 2-3 คนที่ถูกขังไว้ไม่ได้ไปนอนในห้องแอร์เหมือนเด็กคนอื่น และยังมีพฤติกรรมลากเด็กเข้ามุมและมีการขึ้นไปนั่งทับช่วงอกหรือช่วงท้องแล้วแต่ขนาดเด็ก และยังมีเอามือปิดปากเด็กอีกด้วย ซึ่งค่อนข้างจะโหดร้าย
อดีตพนักงานยังเล่าอีกว่า ตอนนั้นมีเด็กประมาณ 120 คน ส่วนเด็กที่โดนกระทำนั้นตามหลักฐานประมาณ 6-7 คน แต่อาจจะมีเพิ่มเติมมากถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่รับเลี้ยง อยากให้ทางหน่วยงานสั่งปิดเนอสเซอรี่ และอยากให้ทางกรมแรงงานเข้ามาช่วยเหลือพนักงานด้วยเนื่องจากคาดว่าทางเนอสเซอรี่คงไม่ดูแลพนักงาน
ส่วนความคืบหน้าทางคดีตอนนี้ ทนายอาร์ม เปิดเผยว่า ตอนนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาไปแล้วเรื่องพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก และทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนำตัวไปฝากขังที่ศาล และทราบมาว่าศาลได้ให้ประกันตัว และส่วนตรงนี้ผมได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และผู้ปกครองทั้งหลายที่ต้องการจะเอาผิด ก็มาให้การเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน เชื่อว่าเรื่องนี้ถ้ารวบรวมไปแล้วอาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มก็ได้
และตอนนี้ในส่วนคดีเท่าที่ทราบอาจจะมีหลายคดีหรือคดีเดียวมีหลายกรรม และต้องสอบถามพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพราะฉะนั้นผู้ปกครองที่มีลูกอยู่เขาสอบถามผมมาเยอะว่า ไม่มีภาพไม่มีคลิปจะเอาผิดได้ไหม และผมบอกว่าผู้ปกครองทุกคนคือผู้เสียหาย คุณสามารถมาแจ้งได้ว่าคุณเป็นผู้ปกครองของเด็กคนไหน และบอกว่าน้องเคยมีอาการแบบนี้ ซึ่งจะเป็นความผิดอาจจะเป็นเหตุนี้ อาจจะเกิดกับบุคคลคนนี้ ซึ่งเราสามารถมาแจ้งได้เลยเพราะเราเป็นผู้เสียหาย และเราอยู่ในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยและลูกเราอยู่ในสถานที่ไม่ปลอดภัย
และตอนนี้ในชั้นต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งขออายัดคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัว ต้องเคารพศาล เพียงแต่ว่าหลังจากนี้ถ้ามีการมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มาติดต่อครูพี่เลี้ยงมาทำให้พยานหลักฐานบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ผมจะนำผู้ปกครองไปยื่นต่อศาลขอคัดค้านการประกันตัว และนำตัวบุคคลดังกล่าวเข้าไปในเรือนจำอีกทีหนึ่ง
ด้านผู้ปกครองของเด็กรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ภาพที่เราเห็นที่ออกข่าวไปก็หดหู่เพราะว่าเราไม่เคยตี ตอนมามีเลือดข้างแก้ม พอเราถามกบอกว่าเด็กเกา จริงๆ ลูกเราไม่ได้แพ้แมสก์อย่างที่เขากล่าวหา เรามีหลักฐานรูปภาพและมีหลักฐานรูปภาพอีกรูปหนึ่งแต่เรายังไม่เปิดเผย จะเก็บไว้ในชั้นศาล จะให้ศาลพิจารณา และเขายังไม่ได้เห็นภาพนี้ด้วย เราจะได้เอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด เพราะว่าการกระทำต่อเด็กและทำร้ายจิตใจเด็ก ทำให้เด็กฝังใจ เด็กมันฝันร้ายตลอด ทำให้เวลานอนมีสะดุ้งบ้างอะไรบ้าง หลังจากที่เขาได้กระทำแบบนั้นไป เรามีหลักฐานที่เป็นรูปภาพชัดเจนแน่นอน และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้ด้วย
และหลังจากวันนั้นเราพาเด็กไปตรวจร่างกายว่าแพ้แมสก์จริงหรือเปล่า แต่ผลที่ตรวจออกมาบอกว่าไม่มีการแพ้แมสก์ คือว่ามันเป็นแผลที่เกิดจากการกระทำ เราเสียค่าใช้จ่ายในส่วนโรงพยาบาลไป เราจ่ายตางหาก อีกครั้งหนึ่งคือลำไส้อักเสบ แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าจะเกี่ยวกับเขาหรือเปล่า แต่เด็กในโรงเรียนส่วนมากเป็นลำไส้อักเสบเกือบทุกคน เวลาให้กินกมีโต๊ะถ่ายรูปให้ผู้ปกครองดู แต่เวลาจริงๆ เขาให้เด็กนั่งกินกับพื้น และเรามีรูปถ่ายด้วยว่าให้นั่งกินกับพื้น และฝากบอกไปถึงโรงเรียนว่าในคดีนี้ผู้ปกครองเป็นจำนวนมากเจ็บช้ำน้ำใจ คุณสมควรจะออกมาให้ข่าวว่ามันเกิดอะไรขึ้น และยอมรับในความเป็นจริงในสิ่งที่คุณทำ สังคมต้องการคำตอบจากคุณเหมือนกัน และผู้ปกครองทุกท่านก็เครียดกันทุกคน
ในสวนค่าเล่าเรียนปกติโรงเรียนอื่นเขาคิดปีนึงเป็นสองเทอม แต่โรงเรียนนี้ 4 เดือนจ่ายครั้งหนึ่ง 20,000 กว่าบาท ถือว่าไม่ใช่น้อย กว่าเราจะเลือกโรงเรียนเราดูแล้วว่ามีกล้องวงจรปิด แต่เวลาเขากระทำต่อเด็กเขาจะพาไปที่ที่เป็นมุมอับของกล้อง ห้องพยาบาลบ้าง มุมอับในห้องลูกบ้าง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้
