สตูล - ดุกันจริง! วัยรุ่นเมืองสตูลปาก้อนหินใส่กลุ่มคู่อริ เด็ก 18 ปีนั่งซ้อนท้ายโดนเต็มศีรษะรถล้มเลือดคั่งในสมองอาการโคม่า ญาติร้องเอาผิดถึงที่สุด ภรรยาผู้ก่อเหตุเผยสามีไม่ได้ตั้งใจ ทำไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 2 เมษายน 2566 เวลา 22.12 น. บนถนนยาตราสวัสดี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล โดยภาพเหตุการณ์มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ จำนวนเกือบ 20 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสตูล โดยระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นซึ่งเป็นคู่อริอีกฝ่ายวิ่งสวนมา ก่อนที่จะเลี้ยวกลับรถเพื่อมาเอาเรื่อง และใช้วัตถุคล้ายก้อนหินขนาดใหญ่ขว้างใส่คู่อริกลุ่มดังกล่าว
ปรากฏว่าไปโดนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันที่ นายกูลธัช โต๊ะเห็ม หรือน้องโฟล์ค อายุ 18 ปี นั่งซ้อนท้ายมาจนล้มลง และก้อนหินโดนเข้าไปที่ศีรษะ เหนือกกหูด้านขวาของน้องโฟล์ค ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้อาการอยู่ในขั้นโคม่า หมอบอกว่ามีเลือดคั่งในสมอง ทำให้อยู่ในภาวะสมองตาย ไม่สามารถผ่าตัดได้ จึงได้นำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้ว
สำหรับน้องโฟล์ค วัยเพียง 18 ปี เพิ่งจบการศึกษาระดับชั้น ปวช. ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.สตูล พ่อแม่แยกทางกัน โดยมีย่า น้า และพี่ๆ คอยดูแลอุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน และมีความฝันอยากจะเป็นช่างไฟฟ้า เพื่อมาเปิดร้านเหมือนกับพี่ๆ ในครอบครัว
น.ส.นันทิดา น้าสาววัย 40 ปี ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่คอยเลี้ยงดูน้องโฟล์คมา กล่าวว่า สงสารหลานและเป็นห่วงมาก เพราะตลอดของการเลี้ยงดูน้องมา น้องเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย ไม่เคยปริปากบ่นหรือเถียงคนในครอบครัว อยู่กับใครใครก็รัก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกคนในครอบครัวเสียใจอย่างมาก และไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นกับน้อง ซึ่งขณะนี้อาการของน้องเพียงแค่รอปาฏิหาริย์เท่านั้น ซึ่งทางครอบครัวยังไม่ได้นึกถึงคดี นึกถึงเพียงว่าอยากให้หมอรักษาน้องให้หาย และปลอดภัยก่อน
ด้านนายธีระพงศ์ ลูวันอาสัน น้าเขยของน้องโฟล์ค ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง โดยยอมรับว่าทางครอบครัวรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลานไม่ได้เป็นคนลงมือก่อเหตุ และไม่เคยมีคู่อริที่ไหนมาก่อน รวมทั้งคนที่ลงมือในครั้งนี้พบว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ในเฟซบุ๊กของหลานด้วย อยากให้มีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะน้องยังมีอนาคตอีกไกล เมื่อเทียบกับอาการของน้องขณะนี้ หลังหมอให้ครอบครัวทำใจ เพราะเลือดคั่งในสมอง ไม่สามารถผ่าตัดได้ ก็เหมือนตายทั้งเป็น และขณะนี้ญาติของผู้ก่อเหตุไม่ได้มีการติดต่อมาเพื่อสารภาพผิด หรือขอโทษแต่อย่างใด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทีมข่าวได้พยายามติดต่อทางฝ่ายครอบครัวผู้ก่อเหตุ โดยสามารถติดต่อกับภรรยาผู้ก่อเหตุ และเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทีมข่าวฟังอีกมุมหนึ่งว่า ที่ผ่านมาทั้ง 2 กลุ่มเคยมีเรื่องกัน โดยทางกลุ่มผู้บาดเจ็บเคยมาหาเรื่อง นำพวกมาล้อมบ้าน และมีการแจ้งความไว้ที่โรงพักด้วย ส่วนสาเหตุที่ผิดใจกันไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด
สำหรับวันเกิดเหตุตนกับสามี หลังกลับจากกินข้าวด้วยกัน สามีได้พาตนมาส่งที่บ้าน ทราบข่าวคู่อริได้ยกพวกมาที่บ้านของเพื่อนกลุ่มพวกตน จากนั้นจึงได้รีบขี่รถจักรยานยนต์ออกไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านเพื่อนที่กลุ่มอริวิ่งผ่าน โดยสามียอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุปาหินใส่นายโฟล์คจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ เป็นเพียงปาไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น เพราะคู่อริมากันเป็นจำนวนมาก และทราบมาว่ามีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย โดยไม่คิดว่าก้อนหินจะไปถูกศีรษะนายโฟล์ค จนเข้าขั้นโคม่า พร้อมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนายโฟล์ค โดยขณะนี้สามีของตนได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล พร้อมกับเพื่อนที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์แล้ว
