ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้านบ้านบูดี โอดครวญดักอวนลอยกุ้งขาวในอ่าวปัตตานีทั้งวันได้แค่ 5-10 ตัว ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพในแต่ละวัน วอนรัฐให้เข้ามาแก้ไขวิกฤตดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
จากกรณีปากอ่าวปัตตานีเริ่มปิดล้อมด้วยสันทรายที่งอกยาวหลายกิโลเมตร บวกกับการงอกของดินบริเวณชายฝั่งด้านตรงข้าม ทำให้สภาพเป็นคอขวด ทำให้การไหลเวียนของน้ำเค็มของอ่าวไทยช้าลงผิดปกติ และการไหลเวียนของน้ำในอ่าวปัตตานีสู่อ่าวไทยไม่ทั่วถึง จนทำให้น้ำในอ่าวปัตตานีเปลี่ยนสภาพอย่างรวดเร็วจะกลายเป็นอ่าวน้ำจืด ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างเห็นได้ชัด จำนวนสัตว์น้ำลดลงจนถึงสูญพันธุ์ไปบ้างแล้ว ซึ่งล้วนเป็นทรัพยากรที่เป็นฐานรายได้ของชาวประมงในรอบอ่าวปัตตานี เช่น สาหร่ายผมนาง สายพันธุ์หอยต่างๆ เริ่มสูญพันธุ์
ปัจจุบัน แม่น้ำในอ่าวปัตตานีเริ่มเค็มแล้วบางจุดโดยเฉพาะบริเวณใกล้กับปากอ่าวบ้านบูดี บ้านตะโล๊ะสะมิแล เป็นต้น จากภาวะน้ำในอ่าวไทยหนุนสูงกว่าปกติ จึงได้อนิสงส์น้ำเค็มจากอ่าวไทยไหลเข้าสู่อ่าวปัตตานี แต่เป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ จึงไม่สามารถฟื้นสภาพอ่าวปัตตานีสู่ภาวะปกติได้
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับชาวประมงพื้นบ้าน ม.1 บ้านบูดี ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พบกับ นายมะแอ สาและ หรือแบแอบูดี แกนนำประมงพื้นบ้านบ้านบูดี ที่ได้สะท้อนให้เห็นสภาพวิกฤตอย่างหนักสำหรับชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งต้องพบกับชะตากรรมนานร่วมเดือนที่ไม่มีกุ้งให้จับ แม้จะพยายามออกไปวางอวนลอยทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ได้มาแค่รายละ 5-10 ตัว ไม่สามารถนำไปขายได้ ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่หมดไปต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 70 บาท
“ในทุกวันนี้ที่อยู่ได้เพราะกู้ยืมหนี้เพื่อให้อยู่รอดไปวันๆ จึงอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาหาทางออกวิกฤตนี้ร่วมกันว่าจะหาทางออกในเบื้องต้นได้อย่างไร และในระยะยาวจะแก้ปัญหายังไง โดยเฉพาะปัญหาปากท้องจะแก้ไขอย่างไร ชาวประมงไม่มีรายได้เลยเพราะชาวประมงที่นี่มีอาชีพทำประมงอย่างเดียว เมื่อทำประมงไม่ได้จะเอารายได้จากไหนมาจุนเจือครอบครัว ยิ่งช่วงเทศกาลถือศีลอดรอมฎอนที่ทุกคนมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าปกติ แต่กลับไม่มีรายได้เลย สาหัสมากเลย ทุกวันนี้บางคนที่อยู่ได้เพราะมีลูกไปขายแรงงานที่มาเลเซีย คอยส่งเงินมาช่วยเหลือพ่อแม่ที่อยู่บ้าน แต่สำหรับคนที่ไม่มีลูกไปขายแรงงานที่มาเลเซียแล้วเขาจะเอารายได้จากไหนมารับประทาน” แบแอบูดี แกนนำประมงพื้นบ้านบ้านบูดี กล่าว
นายยาการียา มามะ อายุ 58 ปี ชาวประมงบ้านบูดี เผยว่า วันนี้ได้ออกเรือไปลอยอวนกุ้งตั้งแต่เช้ามืดเวลาประมาณ 05.30 น. เพราะต้องตามกระแสน้ำขึ้นจนกระทั่งน้ำเปลี่ยนทิศจึงกลับมาบ้านในเวลาประมาณ 11.30 น. พร้อมด้วยจำนวนกุ้ง 10 ตัว เมื่อวานก็ได้ 10 ตัว ซึ่งยังขายไม่ได้เพราะจำนวนที่น้อย ทุกวันก่อนกลับเข้าฝั่งได้พยายามวางเบ็ดปลากังหรือปลาดูแก ได้ประมาณ 4-5 ตัว ไว้ขายเป็นค่าน้ำมันที่จะใส่เรือออกไปวางอวนลอยกุ้งต่อพรุ่งนี้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายอาหารกับข้าวในละวัน ภรรยาต้องไปหายืมมาก่อน มีรายได้เมื่อไรค่อยไปจ่ายวันหลัง ทุกวันนี้กลับมาบ้านภรรยาไม่ส่งยิ้มให้เลย เพราะมันยิ้มไม่ออกจริงๆ
นางรอมละห์ เปาะเยาะ อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า ตัวเองมักออกไปทำประมงด้วยกับสามี แต่ทุกวันนี้ให้สามีออกไปคนเดียวเพราะไม่มีกุ้งเลย ได้มาแค่ 3-4 ตัว พยายามออกไปตอนกลางคืนก็ไม่ได้กุ้ง ตั้งแต่ออกไปทำประมงมาไม่เคยเจอลักษณะนี้มาก่อนเลย ทุกวันนี้ต้องขุดทรัพย์สินเงินเก็บไว้ยามแก่เอามาใช้ก่อน มีไม่มากแต่ต้องกัดฟัน เพราะช่วงเทศกาลถือศีลอดต้องหาซื้อกับข้าวไว้แก้บวชหรือละศีลอด เวลาไปตลาดต้องควานซื้อปลาก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อนำไปทำกับข้าว ส่วนขนมหวานไม่ได้ซื้อเหมือนเขาหรอกเพราะเรามีเงินจำกัด อยู่ได้ทุกวันนี้ในช่วงเทศกาลรอมฎอนเพราะมีเพื่อนบ้านแจกจ่ายขนมหวานฟรีพอได้รับประทานไปบ้าง