พัทลุง - “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย ล่องใต้เป็นประธานเปิดงาน “ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านการแสดงมโนราห์ สืบสานศิลป์ถิ่นโนรา อนุรักษ์มรดกไทย” ที่ จ.พัทลุง โดยมีมโนราห์เข้าร่วมเปิดงานกว่า 500 คน
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่เวทีหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน “ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านการแสดงมโนราห์ สืบสานศิลป์ถิ่นโนรา อนุรักษ์มรดกไทย” ซึ่งทาง อบจ.พัทลุง ร่วมกับชมรมศิลปินพื้นบ้าน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง หน่วยงานองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้กำหนดจัดงานครั้งนี้ขึ้นในระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2566 โดยมี นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นางนิศากร วิศิษฐ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง และคณะให้การต้อนรับ โดยการจัดงานดังกล่าวนี้ มีมโนราห์ นักเรียน และเยาวชนของ จ.พัทลุง มาร่วมการร่ายรำมโนราห์มากกว่า 500 คน
ทั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา 2 เมษายน 2566 เพื่อส่งเสริม อนุรักษ์ และสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้ ให้สืบทอดต่อคนรุ่นหลัง และถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ และคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านให้ผู้ที่สนใจ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน และทุกภาคส่วนในอันที่จะสามัคคีกัน เพื่ออนุรักษ์วิถีวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นต่อไป
สำหรับจังหวัดพัทลุงนั้น ถือว่าเป็นเมืองถิ่นกำเนิดของ “หนังตะลุง” และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มโนราห์” ซึ่งองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก้ (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนมโนราห์เป็นมรดกโลก เมื่อ 15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ในสาขามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของจังหวัดพัทลุง ในฐานะถิ่นกำเนิดของมโนราห์
อย่างไรก็ตาม ภายในงานดังกล่าวนี้มีกิจกรรมมากกมาย ประกอบด้วย การแข่งขันมโนราห์ชิงถ้วยพระราชทานฯ พิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ การแสดงบนเวที การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งของนักเรียนโรงเรียนต่างๆ การแสดงของคณะหนังตะลุง และกิจกรรมถนนคนเดิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดพัทลุง ในส่วนของการแข่งขันมโนราห์ชิงถ้วยพระราชทานฯ ในครั้งนี้ มีคณะมโนราห์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของภาคใต้ ทั้งในและต่างจังหวัดเข้าร่วมการแข่งขันถึง 8 คณะ