บรรยากาศการหาเสียงการเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 3 ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ใน 3 อำเภอคือ อ.นาหม่อม อ.หาดใหญ่ เฉพาะ ต.คอหงส์ ต.ท่าข้าม และ ต.ทุ่งใหญ่ และ อ.จะนะ เฉพาะ ต.คลองเปียะ และ ต.จะโหนง นั้น
แม้จะมีพรรคการเมืองหลายพรรคส่งผู้สมัค แต่ผู้สมัครที่ประชาชนสนใจ และเชื่อว่าจะเป็นผู้ร่วมชิง ได้แก่นายสมยศ พลายด้วง หรือ “โกถึก” จากพรรคประชาธิปัตย์ นายไพร พัฒโน อดีต ส.ส.หลายสมัย อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย และนายพยม พรหมเพชร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ย้ายไปเป็นผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติ เช่นเดียวกับ ส.ส.ทั้งหมดของพรรคพลังประชารัฐใน จ.สงขลา เช่น นายศราตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา เขต 2 ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา เขต 4
จากการสำรวจความนิยมในพื้นที่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รู้จักนายไพร พัฒโน ที่เคยเป็นอดีต ส.ส.ในพื้นที่นี้มาก่อน และในอดีตนายไสว พัฒโน บิดาของนายไพร ก็เคยเป็น ส.ส.เขตนี้เช่นกัน ดังนั้น คนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนเก่าคนแก่ จึงรู้จักนายไพร ในฐานะของ ส.ส.เก่า
ส่วนนายพยม พรหมเพชร ส.ส.ปัจจุบัน มีฉายาว่า ”ส.ส.พันศพ” เพราะอดีตก่อนที่จะเป็น ส.ส.เป็นพิธีการชื่อดังที่ได้รับเชิญให้เป็นพิธีกรงานศพมาหลายปี ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ กระแสความนิยมของนายพยม พรหมเพชร ลดลงกว่าเดิม ทั้งที่ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหวังโหนกระแสของ ”ลุงตู่” ได้เป็น ส.ส.อีกครั้ง แต่จากการฟังเสียงประชาชนในพื้นที่พบว่ากระแสความนิยมของนายพยม ยังอยู่อันดับที่ 3
สำหรับนายสมยศ พลายด้วง ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ทำการหาเสียงก่อนผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ด้วยการจัดสัมมนาประชาชนในพื้นที่หลายรอบ เป็นที่กล่าวขวัญของคนในพื้นที่มากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ โดยเฉพาะในตำบลรอบนอก เช่น ทุ่งใหญ่ ท่าข้าม จะโหนง เป็นต้น มีผู้นำท้องที่ท้องถิ่นสนับสนุน ทำให้เป็นกระแสให้ประชาชนพูดถึง เพราะมีการจัดตั้งหัวคะแนนในพื้นที่มากกว่าคนอื่นๆ
ดังนั้น ในการเลือกตั้ง ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จึงเป็นการแข่งกันระหว่างผู้สมัครจาก 3 พรรคการเมือง คือ นายสมยศ พลายด้วง จากพรรคประชาธิปัตย์ นายไพร พัฒโน จากพรรคภูมิใจไทย และนายพยม พรหมเพชร จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนัก
นายไพรมีจุดแข็งที่มีทีมผู้บริหารเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่เป็นผู้สนับสนุน มีนักการเมืองท้องถิ่นใน อ.นาหม่อมสนับสนุน และประชาชนคนเก่าคนแก่ในพื้นที่รู้จักดี โดยใช้วิธีการลงพื้นที่เข้าพบประชาชนแทนการใช้หัวคะแนน และพรรคให้การสนับสนุนช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ เพราะพรรคภูมิใจไทยหวังที่จะ”ปักธง” เพิ่มจำนวน ส.ส.ใน จ.สงขลาจากเขตเลือกตั้งที่ 3 ที่ส่งนายไพร พัฒโน ลงสมัครในครั้งนี้
ส่วนนายสมยศจะลงพื้นที่ด้วยการตั้งหัวคะแนนเป็นด้านหลักในการช่วยหาเสียง เพราะนายสมยศ ไม่ใช่คนในพื้นที่ดั้งเดิมของเขต 3 แต่มีผู้นำท้องที่ท้องถิ่นสนับสนุนมากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ
สำหรับนายพยม พรหมเพชร ส.ส.ปัจจุบัน ใช้วิธีการลงพื้นที่พบปะประชาชน ซึ่งมีจุดแข็งในฐานะที่เป็น ส.ส.ในเขตนี้ และหวังกระแสของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง