ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าของรถเช่ากว่า 30 คน เดือดร้อนเข้าร้องขอให้ตำรวจช่วยเหลือ หลังถูกหลอกเช่ารถหายไปเป็น 100 คัน เงินก็สูญ รถก็หาย ตำรวจคาดบางส่วนอาจถูกนำไปจำนำต่อ
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้มีเจ้าของรถเช่ากว่า 30 คน ซึ่งเป็นรถบ้าน ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกหลอกเช่ารถ และหายไปกว่า 100 คัน โดยเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสงขลา เอาไว้แล้ว และได้มารวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือผ่าน พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ปฏิบัติราชการรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา
นายธาดา พัฒนกุล อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เรื่องนี้เริ่มจากมีผู้มาเช่ารถในกลุ่มของตน ตอนแรกก็โอนเงินเข้ามาตรงเวลา แต่หลังๆ ผิดนัดไปวันสองวัน และเริ่มยาวขึ้น พอนัดจะมาเคลียร์สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้
เช่นเดียวกันกับ นายจักรินทร์ เดชสถิตย์ อายุ 42 ปี บอกว่า คนที่มาเช่ารถจะอาศัยคนที่รู้จัก มาแจ้งว่ามีสัญญาเช่ารถ จะขอเช่าระยะสั้น เนื่องจากสัญญาหลักกำลังหมด แต่งานยังไม่เสร็จ ก็ไปหาคนรู้จักที่สนิทบอกว่าจะขอเช่ารถ ซึ่งเป็นรถบ้านสัก 2-3 วัน เพื่อให้งานของเขาจบ เมื่อจบงานจะเอารถมาคืน มีการทำเอกสารสัญญาเพื่อที่จะขอเช่ารถระยะสั้นด้วย แต่หลังจากที่เช่าไปแล้ว เมื่อครบตามกำหนดสัญญายังไม่ได้ส่งรถคืน เมื่อโทร.ถามไปได้คำตอบว่างานยังไม่เสร็จ จะขอเช่าต่ออีก 2-3 วัน หรือขอต่ออีกสักระยะหนึ่ง
จนมาถึงเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ครบกำหนดที่จะต้องนำรถมาส่งคืนมีการบ่ายเบี่ยง สุดท้ายปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ และเมื่อตามไปถึงบ้านก็ไม่พบ จึงมารวมตัวกันเข้าแจ้งความ ปรากฏว่ามีผู้เสียหายน่าจะเกิน 50 ราย และคิดว่ารถเป็น 100 คันที่หายไป จึงต้องการให้ตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิด และหารถมาคืนเจ้าของ เพราะทุกคนเดือดร้อน เป็นรถบ้าน ไม่ใช่รถบริษัท
ด้าน พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ปฏิบัติราชการรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณ 30 คน มาแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามรถยนต์ ซึ่งถูกมิจฉาชีพ 2 คนหลอกเช่ารถไป ชื่อนายวิเชียร กับ น.ส.นฤมล ที่ร่วมกันฉ้อโกงให้เอารถไปเช่า ในช่วงแรกๆ มีการจ่ายเงินค่าเช่าดีมาก ทำให้มีการบอกกันปากต่อปากไปยังญาติ และเพื่อนฝูงให้นำรถมาให้เช่า สุดท้ายโดนเชิดรถหายไป เงินก็ไม่ได้ ซึ่งคาดว่าอาจจะมีมากกว่านี้ เข้าข่ายเป็นคดีฉ้อโกง
ขณะเดียวกัน จะให้ทางฝ่ายสืบสวนช่วยติดตามรถเหล่านี้ว่าไปอยู่ที่ไหนบ้าง และจะออกหมายจับทั้ง 2 คนโดยเร็วที่สุด และน่าจะมีเครือข่ายที่มากกว่านี้ ซึ่ง 2 คนนี้อาจเป็นแค่นายหน้าหรือตัวแทน ตัวกลางในการรับรถไปส่งให้แก๊งมิจฉาชีพ จากการสืบสวนทราบว่าบางส่วนถูกนำไปจำนำ แต่จะถูกส่งไปนอกประเทศหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบอยู่
