ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ม.อ.ภูเก็ต เดินหน้าเปิดหลักสูตรอบรม จับมือ Chivitr Wellness Retreat เปิด "หลักสูตรวารีบำบัด" หลักสูตรแรกจาก 50 หลักสูตร เพื่อส่งเสริมสุขภาพสติด้วยการหายใจใต้น้ำ เตรียมพร้อมบุคลากรรองรับเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
วันนี้ ( 28 มี.ค.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมกับ Chivitr Wellness Retreat ภายใต้ บริษัท พีเอ็นอาร์บี จำกัด จัดพิธีเปิด “หลักสูตรวารีบำบัด” พร้อมแถลงข่าวการทำความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กับผู้ประกอบการภาคเอกชน รวมทั้งการสนับสนุนจากหน่วยงานเทศบาลตำบลราไวย์ และจังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนในพื้นที่ราไวย์ และจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายดนัย สุนันทารอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาขตภูเก็ต นายอรุณโสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ และคุณพรทิพย์ นพคุณ Owner & Founder, Chivitr Wellness Retreat ภายใต้ บริษัท พีเอ็นอาร์บี จำกัด ร่วมแถลงข่าว ณ Chivitr Wellness Retreat
(ใกล้หนองน้ำในหาน ต.ราไวย์ จ.ภูเก็ต)
รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้ริเริ่มโครงการจัดตั้งศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน วิทยาเขตภูเก็ต ขึ้น เพื่อร่วมกันพัฒนาหลักสูตร โดยใช้ศาสตร์ด้านการแพทย์ การพยาบาล และการสาธารณสุข ของคณะทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะการแพทย์แผนไทย และคณะอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่วิทยาเขตหาดใหญ่ และศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน วิทยาเขตภูเก็ต ทั้งนี้ ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน วิทยาเขตภูเก็ต
ทั้งนี้ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มีแนวทางที่จะพัฒนาหลักสูตร โดยมุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรปริญญาและมุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรประกาศนียบัตร รวมไปถึงหลักสูตรที่สอดรับกับบริบทเชิงภูมิศาสตร์และสอดคล้องกับความต้องการเชิงพื้นที่ด้วย
รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต กล่าวต่อว่า การพัฒนางานบริการวิชาการ ที่เกี่ยวเนื่องกับหลักสูตรการส่งเสริมสุขภาพ โดยมีแนวความคิดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมประเภทประกาศนียบัตรนั้น (หลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น) แก่ประชาชน องค์กรภาครัฐ และผู้ประกอบการธุรกิจเอกชน ศาสตร์การบำบัดและการส่งเสริมสุขภาพ จากการใช้วิธีวารีบำบัดนี้ Chivitr Wellness Retreat เป็นผู้ที่มีความพร้อมและความเชี่ยวชาญ จึงร่วมกันเปิดหลักสูตรวารีบำบัดเป็นหลักสูตรแรก
โดยแบ่งกลุ่มหลักสูตรออกเป็น 2 ระดับ คือ 1.หลักสูตรวารีบำบัด 1 (Hydrotherapy Module) การส่งเสริมสุขภาพสติด้วยการหายใจใต้น้ำขั้นต้น กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน ประชาชนกลุ่มคนทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มีความเครียดความวิตกกังวลจากการดำเนินชีวิตประจำวัน ที่มีความสนใจในการฝึก 2.หลักสูตรวารีบำบัด 2 (Hydrotherapy Module) กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มคนวัยทำงาน ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่มุ่งหวังในการประกอบอาชีพ Practitioner หรือ มุ่งหวังเป็น Train the Trainer หรือต้องการจะเข้ามาประกอบอาชีพในสายงานในธุรกิจบริการ เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการสปา การให้บริการฟิตเนส การให้บริการกิจกรรมสันทนาการ ในธุรกิจบริการ อาทิ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจฟิตเนส ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพต่าง ๆ เป็นต้น
โครงการการพัฒนาศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ตมีจุดมุ่งหมายและพันธกิจหลัก ดังนี้ 1. การพัฒนาสมรรถนะ และศักยภาพ ความรู้ความสามารถของบุคลากร ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ประกอบการ ในพื้นที่ภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง และการพัฒนาบัณฑิต High Skilled / Talent and Innovative 2. การให้บริการด้านสุขภาพ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพแก่สังคมโดยรวม 3. การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพสู่ความเป็นเลิศ
กิจกรรมดังกล่าวนี้เป็นเพียงก้าวแรกของการเปิดหลักสูตรระยะสั้นเพื่อการก้าวสู้การเป็น Medical Hub ของโลก ซึ่งจากนี้ไปภายในปี 2570 จะมีวิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ เพื่อผลิตบุคลากรทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้เพียงพอและตรงกับความต้องการของพื้นที่แถบอันดามัน ปิดช่องว่างปัญหาการรักษาของพื้นที่อันดามันในอดีต รวมทั้งการส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ต่อไปจะมีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ภูเก็ต โรงพยาบาลศูนย์ทางการแพทย์เฉพาะทางขนาด 500 เตียง เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในกลุ่มอันดามัน สามารถดูแลรักษาโรคซับซ้อนที่โรงพยาบาลในพื้นที่ไม่สามารถรองรับได้ โดยมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยกับโรงพยาบาลต่าง ๆ และศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดา ที่ให้บริการครบวงจรการแพทย์เพื่อสุขภาพ ทั้งการตรวจ การรักษา การฟื้นฟู และการส่งเสริมสุขภาพ โดยจะมีศูนย์ทันตกรรมดิจิทัลสงขลานครินทร์ เพื่อให้บริการทางทันตกรรมทั่วไปและเฉพาะทางที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ซึ่งโครงการ
“ทั้งสามส่วนนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ รวมทั้งเป็นการขยายศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางทางการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญของโลกด้วย” รองอธิการบดี มอ.วิทยาเขตภูเก็ต กล่าว