ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แท็กซี่ภูเก็ตกร่างทำตัวเป็นมาเฟีย รุมล้อมรถบังคับข่มขู่ไม่ให้รับนักท่องเที่ยว เหตุเกิดหน้าห้างดังเมืองภูเก็ต หลังเกิดเหตุขนส่งลงพื้นที่ตรวจสอบ ด้านหัวหน้าวินปฏิเสธไม่ได้เป็นมาเฟีย
วันนี้ (25 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก '#อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์part6' ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 มี.ค.66 เวลาประมาณ 21.33 น. แท็กซี่เจ้าถิ่นทำตัวเหมือนมาเฟีย ไม่ให้ผู้โดยสารใช้บริการแท็กซี่ที่มาจากที่อื่น โดยเหตุเกิดที่หน้าห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต
พร้อมระบุข้อความว่า "#เล่าเรื่องจากหลังไมค์ คือแท็กซี่ไปรับผู้โดยสารที่เซ็นทรัลแต่แท็กซี่เจ้าถิ่นไม่ให้รับ บังคับแขกให้ลงจากรถแต่แขกไม่ลง รุมล้อมรถเหมือนมาเฟียแล้วแขกก็เป็นชาวต่างชาติด้วย บ่อยมากครับ ที่นี่จะทำนิสัยแบบมาเฟียบังคับข่มขู่ทั้งมีคลิปและไม่มีคลิป ทำให้นักท่องเที่ยวตกใจ เสียการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ได้มีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และยังทราบว่าไม่มีการแจ้งความแต่อย่างใด
หลังคลิปดังกล่าวแพร่ออกไป วันนี้ (25 มี.ค.) นายกรณ์พิทักษ์ อาสน์สุวรรณ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้ไปยังคิวแท็กซี่หน้าห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าวินแท็กซี่ที่ปรากฏอยู่ในคลิป ตลอดจนคนขับรถรับจ้างประจำวินดังกล่าว
ปรากฏว่า ทางวินมีการสอบถามที่มาที่ไปรถแท็กซี่คันดังกล่าวเข้ามารับผู้โดยสารได้อย่างไร แต่อาจมีการใช้เสียงดัง คนขับรถรอบๆ อาจมีมาก ทำให้คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวอาจเกิดตกใจกลัว ซึ่งอาจเข้าใจกันผิด โดยตามข้อกฎหมายไม่ได้ห้ามรถแท็กซี่ที่มีป้ายต่างจังหวัดเข้ามาส่งผู้โดยสาร และสามารถรับผู้โดยสารคนเดิมกลับได้เช่นกัน ไม่ใช่มาจอดและมารับผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งตามหลักกฎหมายไม่ผิด แต่ตามมารยาทเขาไม่ทำกัน
ด้านหัวหน้าวินรถสาธารณะหน้าห้างดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีรถแท็กซี่คันดังกล่าวเข้ามารับผู้โดยสารบริเวณหน้าห้าง จากนั้นตนเองได้เดินไปดูป้ายทะเบียน พบว่าเป็นป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร จึงได้ไปเคาะกระจกแล้วบอกว่ารถป้ายกรุงเทพมหานครรับผู้โดยสารไม่ได้ ต้องป้ายภูเก็ตเท่านั้นถึงรับลูกค้าได้ ซึ่งคนขับไม่ได้ว่าอะไรและยอมรับผิด ซึ่งทางเราไม่ได้บังคับให้ลูกค้าลงจากรถแต่อย่างใด โดยตนเองเข้าไปคุยเพียงคนเดียว แต่มีเพื่อนอยู่ข้างๆ โดยในวินจะมีคนขับยืนอยู่เยอะอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าพวกเราไปล้อมรถ ซึ่งเราไม่ได้ไปล้อมรถแต่อย่างใด
ส่วนคำว่า "มาเฟีย" พวกเราไม่ใช่ และพวกเรายังไม่เคยเจอ ไม่เข้าใจเช่นกันว่ามาเฟียเป็นอย่างไร แท็กซี่ภูเก็ตมักจะถูกคนอื่นเรียกว่ามาเฟีย อยู่ตลอด รถเข้ามารับลูกค้าไม่ได้ ก็เรียกพวกเราว่ามาเฟีย ต้องไปถามคนที่พูดและให้อธิบายด้วยว่า มาเฟีย เป็นอย่างไร ส่วนตัวแล้วมาเฟียต้องมีการเรียกหรือเก็บค่าคุ้มครอง ซึ่งพวกเราไม่ใช่มาเฟีย มันหมดไปแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต กล่าวว่า หลังจากโชเชียลมีการแชร์คลิปดังกล่าวกันเป็นวงกว้าง ได้สั่งให้สายตรวจและชุดสืบสวนไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับกำชับวินรถรับจ้างต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ไม่ให้เกิดการข่มขู่ กรณีถ้ามีรถแท็กซี่หลงเข้ามารับผู้โดยสารให้มีการพูดคุยกันดีๆ ส่วนคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวยังไม่ได้มีการเข้ามาแจ้งความแต่อย่างใด