รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีการทุจริตสหกรณ์ตำรวจพัทลุง

พัทลุง - “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จ.พัทลุง ติดตามความคืบหน้าคดีการทุจริตสหกรณ์ตำรวจพัทลุง และการเตรียมการแจ้งข้อหากลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 10 ราย

จากกรณีเกิดการทุจริตในสหกรณ์ตำรวจพัทลุง ที่มีความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท และจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาไปแล้ว 27 ราย ยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ในขณะที่เจ้าหน้าที่ ปปง. และพนักงานสอบสวนของ สตช. ได้เร่งสอบพยาน การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 27 รายเพิ่มเติม ในความผิดอาญาฟอกเงิน และจะได้เร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 สงขลา ต่อไป

ในขณะที่ชุดสืบสวนและสอบสวนของ สตช. ได้ขยายผลการสอบปากคำของกลุ่มผู้ต้องทั้ง 27 ราย รวมทั้งเครือญาติ และจะมีการเรียกตัวบรรดาเครือญาติ บุคคลในครอบครัวของผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาในคดีความผิดอาญาฟอกเงินประมาณ 10 ราย ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (17 มี.ค.) ที่หอประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง อ.เมืองพัทลุง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และคณะได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวาดล้างในคดีการทุจจริตสหกรณ์ตำรวจออมทรัพย์พัทลุง โดยมี นายสมคิด สมปองสกุล ผอ.ส่วนคดีอาญาฟอกเงิน กองคดี 5 สำนักงาน ปปง. เข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า ในวันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงินต่อผู้ต้องหาทั้งหมด 19 ราย แยกเป็นผู้ต้องหารายเก่า 15 ราย และผู้ต้องหารายใหม่ 4 ราย โดยในวันนี้ได้มีการตรวจค้นพื้นที่ 7 จังหวัด 24 จุดตรวจค้น โดยสามาถตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินได้ดังนี้ บ้านพร้อมที่ดิน 10 หลัง มูลค่า 40 ล้านบาท ที่ดินตามโฉนด จำนวน 18 ล้านบาท รถยนต์ จำนวน 7 คัน เป็นเงิน 4,500,000 บาท และรถจักรยานยนต์ 4 คัน เป็นเงิน 80,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 62,580,000 บาท


อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดการทุจริตขึ้น ทาง สตช.และ ปปง. รวมทั้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีผลสรุปการปฏิบัติ และการตรวจยึด อายัด จำนวนทั้งสิ้น 123 จุด ในพื้นที่ 11 จังหวัด ประกอบด้วย 1.บัญชีธนาคาร 37 บัญชี เป็นเงิน 4,369,867 บาท 2.บ้านพร้อมที่ดิน 40 หลัง จำนวน 274 ล้านบาท 3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 33 หลัง จำนวน 362 ล้านบาท 4.ห้องชุด 6 ห้อง เป็นเงิน 31 ล้านบาท 5.ที่ดินเปล่า (โฉนด) 29 แปลง เป็นเงิน 164.5 ล้านบาท 6.ที่ดินเปล่า (น.ส.3 ก.) 11 แปลง เป็นเงิน 10 ล้านบาท 7.รีสอร์ต (หัวหิน) 1 แห่ง เป็นเงิน 12 ล้านบาท 8.ตลาดสดเนื้อที่ 6 ไร่ จำนวน 1 แห่ง เป็นเงิน 100 ล้านบาท 9.อายัดหุ้น 51 บริษัท เป็นเงิน 52.3 ล้านบาท 10.ยึดรถยนต์ 26 คัน เป็นเงิน 269 ล้านบาท และ 11.ยึดรถจักรยานยนต์ 16 คัน มูลค่า 630,000 บาท

นอกจากนั้น ยังตรวจยึดและอายัดทรัพย์อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าทั้งสิ้น 966,333,140 บาท ซึ่งหลังจากนี้ทาง ปปง.จะมีการนำทรัพย์ที่ยึดได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และจะนำทรัพย์สินทั้งหมดมาคืนให้สหกรณ์ฯ ตามขั้นตอนต่อไป พร้อมกันนั้น จะนำกลุ่มผู้ต้องไปส่งฟ้องอัยการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 สงขลา ต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ยึดครอง ถือครอง ทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด หากไม่อยากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือรู้ตัวว่ากระทำความผิด และร่วมกันกระทำความผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อจะได้นำทรัพย์สินมามอบให้พนักงานสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป สำหรับคดีนี้ใกล้จบแล้ว โดยผู้ต้องหาจะต้องถูกจับกุม และถูกดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ส่วนทรัพย์สินจะถูกตรวจยึดและอายัดทุกราย

พร้อมกันนั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ อดีต หน.ชุดสอบสวนของ สตช.ในคดีดังกล่าว (เกษียณแล้ว) ได้เข้ามาดูแล ตรวจสอบในการจัดทำสำนวนการฟ้องผู้ต้องหาอย่างรัดกุม และในวันที่คดีดังกล่าวนำสู่ชั้นศาล ตนเองจะเดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาของคดีด้วยตนเอง