โดย.. ไสว รุยันต์
จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งอยู่กึ่งกลางของภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก หากเปรียบเทียบกับจังหวัดใกล้เคียงอย่างเช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสงขลา และจังหวัดตรัง แต่มีประชากรจำนวน 521,541 กว่าคน และมีผู้สิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงจำนวน 4 แสนกว่าคน จึงมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 3 คน เขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราฎร จำนวน 3 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่อำเภอเมือง อำเภอเขาชัยสน เขตเลือกตั้งที่ 2 พื้นที่อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอควนขนุน อำเภอศรีบรรพต และอำเภอป่าพะยอม ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 พื้นที่อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด อำเภอบางแก้ว พื้นที่อำเภอป่าบอน และพื้นที่อำเภอปากพะยูน
เดิมจังหวัดพัทลุงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา หรือประมาณ 9 สมัย สมาชิกสภาพผู้แทนราษฎรเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ครองพื้นที่มายาวนาน จนกระทั่งเมื่อมีการเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2562 ที่มีการแข่งขันกันสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา (มีการพูดกันว่า มีการลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาทต่อเขตเลือกตั้ง) ปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์สูญเสียเก้าอี้ไปจำนวน 2 นั่ง ให้แก่พรรคภูมิใจไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 ภายใต้การนำหรือแม่ทัพพรรคภูมิใจไทยในเขตภาคใต้คือ นางนที รัชกิจประการ ผู้ที่สูญเสียเก้าอี้ไปครั้งนั้น คือ นางสุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.ปชป. เขตเลือกตั้งที่ 1 และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.ปชป. เขตเลือกตั้งที่ 2 และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในสมัยนั้นแต่ยังตกม้าตาย ส่วนที่เหลืออยู่คือ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พรรค ปชป. ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา ซึ่งเป็นโควตาของพรรค ปชป.
ขณะที่การเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ปี 2566 ที่จะเกิดภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งของจังหวัดพัทลุงจะมีการแข่งขันกันสูงกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา และดุเดือดของ 3 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ
เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นการแข่งขันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นเป็นเพียงแค่ไม้ประดับ เดิม ส.ส.เขตนี้คือนายภูมิศิษฏ์ คงมี พรรคภูมิใจไทย แต่อยู่ระหว่างพักการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากกรณีเสียบบัตรแทนในสภาฯ และอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี พรรคภูมิใจไทยจึงตัดสินใจส่งว่าที่ผู้สมัครคนใหม่และเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ นายภุชงค์ วรศรี อดีต ส.จ.หลายสมัย และตำแหน่งหลังสุดคือประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เคยลงสมัครแข่งขันชิงตำแหน่ง นายก อบจ.พัทลุงมาแล้ว แต่แพ้แก่ตระกูล “ธรรมเพชร” คือนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร มาครั้งนี้แข่งขันกับนางสุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.ปชป. ที่หมายมั่นปั้นมือกลับมาทวงตำแหน่งกลับคืน พร้อมสู้กับพรรคภูมิใจไทยทุกรูปแบบ ที่ผ่านมา ลงพื้นที่พบประชาชนอย่างสม่ำเสมอจึงได้เปรียบกว่า นายภุชงค์ วรศรี ซึ่งเป็นมวยแทนและเป็นว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรคภูมิใจไทย และพื้นเพเดิมเป็นคนในเขตพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 และแข่งขันกับคนของตระกูล “ธรรมเพชร” แต่คาดว่านางสุพัชรี ธรรมเพชร ว่าที่ผู้สมัครพรรค ปชป.กว่าจะชนะก็หืดขึ้นคอเช่นกัน
เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นการแข่งขันของ 4 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคสุดท้ายคือ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.ปชป. ที่ผันตัวไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เป็นเสมือนแม่ทัพในภาคใต้ที่จัดว่าที่ผู้สมัครของพรรคลงแข่งขัน ที่จังหวัดพัทลุงในเขตเลือกตั้งที่ 2 ส่ง ดร.บอย หรือพลกฤษณ์ คล้ายภัทร ที่ยังไม่ได้รับความสนใจของประชาชนมากนัก เดิมเขตนี้เป็นของพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายฉลอง เทิดวีระพงศ์ เป็น ส.ส. แต่อยู่ระหว่างพักการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากกรณีเสียบบัตรแทนในสภาฯ เช่นกัน พรรคภูมิใจไทยจึงส่ง นายวรท เทิดวีระพงศ์ บุตรชายนายฉลอง เทิดวีระพงศ์ ลงเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยแทน แข่งขันกับนายนิธิศักดิ์ ธรรมเพชร ว่าที่ผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติ บุตรชายของนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ ดร.เดย์ หรือปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี ว่าที่ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ บุตรสาวของนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี อดีต ส.ส.จังหวัดพัทลุง 2 สมัย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง
เขตนี้จึงเป็นที่มีการแข่งขันกันสูงและดุเดือดและถูกจับตามองเป็นพิเศษ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เป็นหน้าใหม่ทั้งหมด ดังนั้น ผู้ที่อยู่เบี้องหลังของว่าที่ผู้สมัครเดินหน้าชิงหัวคะแนนเสียงที่ไว้ใจได้มาอยู่กับฝั่งของตนเองเพื่อความได้เปรียบ ซึ่งความได้เปรียบยังเป็นของตระกูล “ธรรมเพชร” จากฐานเสียงเดิมของนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง จากการได้คะแนนเสียงอย่างท่วมท้นในพื้นที่เขต 2 แห่งนี้ จึงเป็นไปได้ว่าผู้ที่ผู้สมัคร ส.ส.จะได้รับการไว้วางใจจากประชาชนเขตนี้คือ นายนิธิศักดิ์ ธรรมเพชร จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และผู้ที่จะเบียดเข้ามาถึงชนะได้คือ นายวรท เทิดวีระพงศ์ พรรคภูมิใจไทย ตามด้วย ดร.เดย์ หรือ ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี ว่าที่ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ และคะแนนเสียงทั้ง 3 รายดังกล่าวจะออกมาแบบคู่คี่สู่สีแพ้ชนะไม่เกิน 2,000 คะแนน
และ เขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นการแข่งขันระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ เดิมเขตนี้ ส.ส.คือ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ปี 66 จะไม่ลงสมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งอาจจะไปอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรค จึงได้ส่งบุตรชายลงแทนคือ นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ ซึ่งยังเชื่อในพื้นที่เขต 3 ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามจะลงคะแนนเสียงให้อีกครั้งกับบุตรชายเหมือนกับที่สนับสนุนตนเองมาหลายสมัย โดยลงแข่งขันชิงชัยกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย คือ นายประเทือง มนตรี พี่ชายของนางนาที รัชกิจประการ แม่ทัพพรรคภูมิใจไทยในเขตภาคใต้ จึงถูกมองว่าเขตนี้พรรคภูมิใจไทยแพ้ไม่ได้ หลังจากที่เคยแพ้พรรคประชาธิปัตย์มาแล้วเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 แต่กว่าจะชนะคงออกแรงแบบสุดๆ
จังหวัดพัทลุงถึงจะเป็นสนามเล็กของการเลือกตั้ง ส.ส. แต่ก็ดุเดือดไม่แพ้สนามใหญ่ ที่ผ่านมา การเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนั้นมีการเกณฑ์คนเข้ารับฟังอย่างล้นหลามของแต่ละพรรคการเมือง จึงเป็นไปได้ว่าในอนาคตที่จะถึง ส.ส. 3 เขตเลือกตั้งจะมาจาก 3 พรรคการเมือง
เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ และเขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคภูมิใจไทย และการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงต่างรู้ดีว่าเป็นการแข่งขันระหว่าง “ตระกูลธรรมเพชร” กับ “นางนที รัชกิจประการ” แม่ทัพพรรคภูมิใจไทยในเขตภาคใต้ และภรรยาของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 นั้น เป็นการแข่งขันระหว่างนางนที รัชกิจประการ แม่ทัพพรรคภูมิใจไทยในเขตภาคใต้ กับนายนริศ ขำนุรักษ์ ที่ส่งบุตรชายลงแทน