ตรัง - เกษตรกรกลุ่มนาทุ่งเคียน ต.นาข้าวเสีย นำ “ข้าวพันธุ์เบายอดม่วง” หนึ่งในพันธุ์ข้าวชื่อดังของ จ.ตรัง มาทดลองปลูกแบบนาโยนขึ้นเป็นครั้งแรกในจังหวัด ปรากฏว่าได้ผลผลิตดี แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มนาทุ่งเคียน ซึ่งประกอบไปด้วยเกษตรกรชาวนาในพื้นที่หมู่ 1, 5, 7, 8 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง จำนวน 34 ราย รวมเนื้อที่นาข้าว 156 ไร่ โดยมี นายปราโมทย์ ปั้นทอง เป็นประธานกลุ่ม ได้ทดลองปลูกข้าวแบบนาโยนขึ้นเป็นครั้งแรกใน จ.ตรัง โดยใช้ข้าวพันธุ์เบายอดม่วง หนึ่งในพันธุ์ข้าวชื่อดังของ จ.ตรัง ที่อยู่ระหว่างการผลักดันให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ซึ่งขณะนี้ต้นข้าวได้เจริญเติบโตออกรวงสีเหลืองอร่ามจนเริ่มเก็บเกี่ยวได้แล้ว ซึ่งถือว่าผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพดีเทียบเท่ากับการปลูกข้าวแบบนาดำ
การปลูกข้าวแบบนาโยน ถือเป็นนวัตกรรมการทำนาวิธีใหม่ ซึ่งยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในภาคใต้ ทั้งที่ให้ผลผลิตดีไร่ละประมาณ 400 กิโลกรัม แถมยังใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 3-4 กิโลกรัมต่อไร่ ต่างจากการปลูกข้าวแบบนาดำ ที่จะต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 8-12 กิโลกรัมต่อไร่ พร้อมทั้งไม่ต้องถอนต้นกล้าไปปักดำด้วยคน ซึ่งทำให้ปวดหลัง ขณะที่เด็กๆ ยังมาช่วยทำได้ เพราะงานไม่หนักมาก ส่วนต้นกล้าที่โยนลงไปจะตั้งตัวได้ทันที สามารถเจริญเติบโตและแข็งแรง ทำให้แตกกอได้ดีมากและเร็วกว่า จึงมีจำนวนต้น หรือกอที่มากกว่านาดำ ตลอดจนจัดการด้านโรคและแมลงได้ง่ายอีกด้วย
ที่สำคัญก็คือ การปลูกข้าวแบบนาโยนใช้ต้นทุนและแรงงานน้อยกว่าวิธีอื่นๆ โดยแบบนาดำ หากรวมค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าจ้างไถ ค่าจ้างดำ และค่าจ้างเก็บเกี่ยวแล้ว จะมีค่าใช้จ่าย 3,190 บาทต่อไร่ แต่หากเป็นนาโยน จะเหลือค่าใช้จ่ายแค่ 1,510 บาทต่อไร่ หรือประหยัดไปถึง 1,680 บาทต่อไร่ เพราะค่าเมล็ดพันธุ์จาก 240 บาทต่อไร่ จะเหลือแค่ 60 บาทต่อไร่ ขณะที่ค่าจ้างดำ 1,500 บาทต่อไร่ สามารถตัดทิ้งได้ทั้งหมด เนื่องจากนาโยนทำกันเองได้ในครอบครัว สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง จึงเตรียมส่งเสริมให้ปลูกข้าวพันธุ์เบายอดม่วงแบบนาโยนมากขึ้น สำหรับฤดูกาลเพาะปลูกหน้า