นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึง Michelin Guide หลังพบปะสื่อมวลชน โดยเรื่องที่มีการกล่าวถึงกันบ่อยว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ดึงเข้ามาทำการสำรวจ คัดเลือก และให้ดาวร้านอาหารในประเทศไทย เพื่อเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ
“มิชลินต้องการประชาสัมพันธ์ในเรื่องของอาหาร ปัจจุบันมีเพียง 22 ประเทศเท่านั้นที่มิชลินลงไปทำงานและทำการสำรวจว่ามีร้านอาหารที่ไหนบ้างที่เข้าเกณฑ์ของมิชลิน และเราคือ 1 ใน 22 ประเทศของโลกใบนี้ โดยประเทศไทยให้ความสนใจมาก”
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ดึงเอา Michelin Guide ให้ทำการสำรวจ คัดเลือกร้านอาหารตั้งแต่ร้านอาหารระดับหรูไปจนจนถึงร้านอาหารข้างทาง หรือสตรีทฟูด หลังจากนั้นมีการจัดอันดับร้านอาหารโดยการให้ดาวตั้งแต่ 1 ดาว 2 ดาว และ 3 ดาว โดยการพิจารณาจากคุณภาพวัตถุดิบ เทคนิคการปรุงอาหาร รสชาติอาหาร ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย โดยทาง Michelin Guide จะให้ประกาศนียบัตรรับรอง พร้อมสัญลักษณ์ และจะทำการตรวจสอบติดตามผลทุกๆ 1 ปี
สำหรับร้านอาหารที่ได้ 1 ดาวหมายถึงร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดชิม ร้านอาหาร 2 ดาวคือ ร้านอาหารยอดเยี่ยม ที่ควรค่าขับรถออกไปเพื่อแวะชิมอาหารมีคุณภาพที่สูงขึ้น และ 3 ดาว หมายถึงสุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้งในชีวิต
“แต่ละปี Michelin Guide ออกหนังสือเป็นคู่มือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเราได้ไปลิ้มลองและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศชิมอาหาร ร้านอาหารคุณภาพสูง ซึ่งขณะนี้ผมได้ประสานให้ Michelin Guide สำรวจร้านอาหารในภาคใต้กำหนดไว้ 3 จังหวัดคือ สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี คาดการณ์ว่าสงขลากับตรังน่าจะได้รับการรับรอง”
ทั้งนี้ มิชลินไกด์ได้เปิดเผยรายชื่อร้านอาหารและสตรีทฟูดคุณภาพดีราคาย่อมเยาที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ “บิบ กูร์มองด์” (Bib Gourmand) ความอร่อย ประจำปี 2566 รวมทั้งสิ้น 189 ร้าน ในจำนวนนี้มี 53 ร้านได้รับการจัดอันดับครั้งแรก และ 6 ร้านได้รับการเลื่อนระดับดาวจากปีก่อน