พังงา -ยังไม่จบ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองพังงา งบประมาณของจังหวัด 30 ล้านบาท ล่าสุด แฉอีกรอบ จาก “ทองอุไร” ลามไปถึง “ต้นรวงผึ้ง” ราคาต้นละ 20,098.65 บาท ปลูกหน้าจวนผู้ว่าฯ 2 ต้น สุดท้ายยืนต้นตายแล้ว 1 ต้น ส่วนอีกต้นร่อแร่
จากกรณีมีการตีแผ่ข้อมูลและจี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองพังงา งบประมาณของจังหวัด 30 ล้านบาท หลังเพจดังออกมาแฉกรณีการปลูกต้นทองอุไร ที่มีราคาสูงถึงต้นละ 6,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินจริง โดยมีการปลูกทั้งหมด 37 ต้น ล่าสุดพบว่ามีการเติบโตเพียงแค่ 6 ต้น ส่วนที่เหลืออาการร่อแร่
และไม่ได้มีแค่เพียงทองอุไร ต้นละ 6,090.50 บาทเท่านั้น แต่ยังมียังมีต้นรวงผึ้ง ที่นำมาปลูกอีก จำนวน 2 ต้น โดยต้นรวงผึ้ง ปลูกไว้ที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ในราคาต้นละ 20,098.65 บาท ขนาดลำต้น 4 นิ้ว เป็นเงินรวม 40,197.30 บาท และล่าสุดพบว่ามีต้นรวงผึ้งที่อยู่ในสภาพยืนต้นตายแล้ว 1 ต้น ส่วนอีกต้นพบว่าอยู่ในสภาพที่ไม่เติบโต และมีอาการร่อแร่
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาซึ่งได้ลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวาน (7 มี.ค.) ระบุว่า ให้มีการตั้งกรรมการสอบให้เสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่ามีต้นไม้ยืนต้นตาย และมีบางส่วนไม่เติบโต
ขณะที่ทางทางเจ้าหน้าที่จากโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพังงา ได้จี้แจ้งว่า ต้นทองอุไร ที่ปรากฏในข่าวนั้นไม่ใช่ต้นทองอุไรในโครงการที่ราคาต้นละ 6,090.50 บาท ต้นทองอุไร ของโครงการจะต้นใหญ่กว่าและอยู่ในคอกที่มีไม้ล้อมรอบอยู่ ซึ่งพบว่ามีเหลืออยู่เพียงไม่กี่ต้น และยังอยู่ในระยะประกันผลงาน ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรื่องให้ผู้รับเหมาเข้ามาซ่อมแซมแล้ว
ขณะที่ต้นรวงผึ้ง ราคาต้นละ 20,098.65 บาทนั้น พบว่ายืนต้นตายอยู่ 1 ต้น อีกต้นก็โตไม่สมบูรณ์
สำหรับการปลูกต้นทองอุไร และ ต้นรวงผึ้ง เป็นส่วนหนึ่งของ"โครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา" บนพื้นที่ 7 ไร่ ซึ่งทั้งโครงการใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท มีการเสนอโครงการและก่อสร้างตามปีงบประมาณ 2564-2565 ใช้งบจังหวัดพังงา ประจำปี 2565 โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพังงา เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งตรงกับช่วงที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา